รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีการอนุบาลมาเรียม เป็นประโยชน์ต่อการทำงานด้านการอนุบาลสัตว์น้ำที่กำพร้า และส่งทอดต่อไปถึงการดูแลยามีล ที่จะต้องให้หย่านมก่อน จะปล่อยคืนธรรมชาติ หากทดลองปล่อยแล้วไม่ได้ ก็จำเป็นต้องเลี้ยงในอควาเรียม เหมือนในต่างประเทศ
วันที่ 18 ส.ค. 62 รศ.สพญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า กรณีการอนุบาลมาเรียมในระบบเปิดตามธรรมชาติ และการตายของมาเรียม เกิดประโยชน์อย่างมากต่อทางวิชาการและการแพทย์ด้านสัตว์น้ำ ทำให้เราเห็นว่าแนวทางที่จะปฏิบัติที่จะช่วยเหลือลูกสัตว์กำพร้า ลูกสัตว์ทะเลหายากกำพร้า ควรจะเป็นยังไง ก่อนที่เราจะปล่อยเขาคืนสู่ธรรมชาติ

เพราะว่าบางทีธรรมชาติก็ไม่ได้สวยงามและก็ดีอย่างที่เราคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่มีพวกมลภาวะต่างๆ เกิดขึ้น หรือว่าขยะต่างๆ เกิดขึ้น ดังนั้น เราก็ได้เรียนรู้ว่า ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้งเราจะจัดการยังไง และก็ในทางสัตวแพทย์เอง ก็ได้เรียนรู้ถึงการให้ยา การดูแลรักษาโรคของพะยูน และก็วิธีการเจาะเลือด วิธีการป้อนอาหารอะไรต่างๆ จากมาเรียม และการดูแลสิ่งแวดล้อมเรื่องปัญหาขยะไม่ให้มีในทะเล เพื่อความปลอดภัยของสัตว์ และจะส่งต่อไปถึงการดูแลยามีลหลังจากนี้
เพราะเนื่องจากว่า ยามีล อยู่ในสภาพที่แตกต่างจากมาเรียมมาก ยามีลอยู่ในพื้นที่ที่ปกป้อง ทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากทางกรมอุทยาน ทหารเรือ สัตวแพทย์ แล้วก็ทางสัตวแพทย์จุฬา ก็ต้องเข้าไปช่วยดูแลอย่างเต็มที่เช่นกัน
และคิดว่าตอนนี้เราก็คงจะต้องปรับให้ยามีลอยู่ในพื้นที่กว้างขึ้น เพื่อให้สบายขึ้น หวังว่าน่าจะยังไม่มีปัญหา ส่วนในเรื่องที่จะนำยามีลไปเลี้ยงตามแนวทางตามธรรมชาติ ตามที่ทุกฝ่ายคาดหวังไว้เดิมนั้น คงจะต้องให้ยามีลเลิกนมก่อน เพราะว่าในธรรมชาติไม่มีนมให้กิน แต่พวกคนมีนมให้กิน เพราะฉะนั้นถ้าหย่านมเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็อาจต้องลองนำไปปล่อยดูก่อนในธรรมชาติ

ถ้าค่อยๆ ปล่อยแล้วเขาดูแลตัวเองได้ ก็จะปล่อยไป แต่ถ้าดูแลตัวเองไม่ได้ ก็จะต้องเอากลับมาอยู่ในอควาเรียม เหมือนในต่างประเทศเขาก็ทำกันแบบนี้ หลายแห่งเช่นที่ซิดนีย์ คือ ถ้าสัตว์อยู่ได้เราก็ให้อยู่ ถ้าอยู่ไม่ได้แล้วก็กลับมาเลี้ยงต่อ ในส่วนกรณีสัตว์สัมผัสกับคนสามารถติดเชื้อได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นในการที่ทุกคน ผู้อาสาสมัครที่จะมาช่วยดูแล ก็จะต้องมีการคัดเลือกแล้วก็ห้ามป่วย แล้วก็ต้องทำความสะอาดฆ่าเชื้อก่อนที่จะเข้าไป หรือดูแลสัตว์แล้วก็ไม่เปิดให้คนนอกเข้า เพราะเกรงว่าเชื้อโรคต่างๆ จะเข้าไป










