Trip.com Group จัดงานสัมมนาครั้งใหญ่เผยวิสัยทัศน์และแผนการดำเนินงานในอนาคตที่สำคัญต่อวงการการท่องเที่ยว ผ่านงาน Envision 2025 Global Partner Conference ซึ่งจัดขึ้นที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
โดยภายในงานมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 3,000 คนจากทั่วโลก ซึ่งล้วนเป็นผู้นำและพันธมิตรในวงการการท่องเที่ยวที่มาเพื่อนำเสนอกลยุทธ์การปฏิวัติวงการท่องเที่ยวโลกผ่านนวัตกรรมและการเติบโตที่ยั่งยืน
TODAY Bizview ได้มีโอกาสเป็นหนึ่งในผู้ร่วมงานในครั้งนี้ โดยจะสรุปเนื้อหาภายในงานที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้อ่านอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นวิสัยทัศน์ใหม่ที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดย Trip.com Group
สำหรับ Trip.com Group เป็นผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก ประกอบด้วยแพลตฟอร์ม Trip.com, Ctrip, Skyscanner และ Qunar ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2542
[ การท่องเที่ยวถูกขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ]
‘เจมส์ เหลียง’ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัท Trip.com Group มองว่าการท่องเที่ยวทุกวันนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม แบ่งออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่
1.ขับเคลื่อนด้วย Ai ตัวอย่างเช่น TripGenie ผู้ช่วยวางแผนการเดินทางด้วย AI ที่พัฒนาโดย Trip.com เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ชาญฉลาดและเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
2.ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน โดย Trip.com ได้ริเริ่มโครงการโรงแรมคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Hotel) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไปได้ 7-8 ปี
3.ขับเคลื่อนด้วยเอกลักษณ์ ที่ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมองเป็น 4 เรื่อง คือ นวัตกรรม วัฒนธรรม ศิลปะและคอนเทนท์ ที่นำมาผสมผสานกันเพื่อสร้างความน่าสนใจใหม่ๆ ให้กับแหล่งท่องเที่ยว

ดังนั้น ‘เจมส์ เหลียง’ จึงได้วางนวัตกรรมเป็นแกนหลักของกลยุทธ์บริษัท และเน้นย้ำว่าเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานได้
“การท่องเที่ยวและนวัตกรรมเป็นพลังสำคัญในเศรษฐกิจโลก และเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่มีความหมายและเติมเต็มที่สุดสำหรับมนุษย์” เจมส์ เหลียง กล่าว
ด้าน ‘เจน ซัน’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Trip.com Group ได้เน้นย้ำถึงแรงผลักดันที่แข็งแกร่งของบริษัท เมื่อเข้าสู่ปี 2568 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากความร่วมมือระดับโลกที่แข็งแกร่งและการลงทุนในนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง
ปีนี้ธุรกิจระหว่างประเทศเติบโตแข็งแกร่งในไตรมาสแรก โดยการจองการท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นกว่า 120% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด

“หลังจากตัวเลขสถิติใหม่ การท่องเที่ยวยังคงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ สำหรับผู้บริโภคทั่วโลก และอุตสาหกรรมนี้จะยังคงเติบโตเร็วกว่าเศรษฐกิจโดยรวม” เจน ซัน กล่าว
นอกจากนี้ภายในงานยังมีผู้บริหารคนอื่นๆ ที่ได้ขึ้นพูดบนว่าเวที อาทิ
‘Monica Xiao’ CEO of Accommodation ที่บอกว่าปัจจุบันมีคนดาวน์โหลดแอปมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้บริษัทไม่หยุดพัฒนา โดยมีการนำ AI มาใช้ทำให้โมเดลทำงานได้ดีขึ้นจนกลายเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว
‘Ray Chen’ CEO of Vacation บอกว่า AI คือสิ่งที่พลิกโฉมการท่องเที่ยว เพราะทำให้หลายๆ อย่างง่ายขึ้น และยังช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นได้มากจนทำให้ Trip.com ได้รับความพึงพอใจมากถึง 95% จากผู้ใช้งาน
‘Steven Zhang’ CEO of Flights บอกว่า หัวใจหลักของ Trip.com คือ 1. เทคโนโลยี 2.บริการ และ 3.ข้อมูล ซึ่งการมีทั้ง 3 สิ่งนี้ทำให้เราสามารถมอบบริการที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้มากขึ้นในทุกๆ ด้าน
[ เปิดตัวกองทุนมูลค่า 100 ล้านดอลล์ ]
เพื่อต่อยอดจากแรงผลักดันนี้ Trip.com Group ได้ประกาศเปิดตัว ‘กองทุนเพื่อนวัตกรรมการท่องเที่ยว’ มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยกองทุนนี้มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนนวัตกรรมเชิงพาณิชย์และไอเดียที่ล้ำสมัยซึ่งปรับเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนเดินทาง เชื่อมต่อ และสำรวจโลก โดยจุดมุ่งเน้นสำคัญคือ
– สนับสนุนโครงการขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบสูง เช่น เทศกาลรูปแบบดิจิทัล และงานอาหารแบบประสบการณ์อิมเมอร์ซีฟ เพื่อส่งเสริมจุดหมายปลายทางที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติและยกระดับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวใหม่ๆ
– รางวัลนวัตกรรมการท่องเที่ยว รางวัลระดับโลกอันทรงเกียรติ พร้อมเงินทุนประมาณ 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเชิดชูบุคคลและองค์กรสำหรับนวัตกรรมที่โดดเด่นในการท่องเที่ยวในด้านความยั่งยืน เทคโนโลยี มรดกทางวัฒนธรรม
[ แขกคนพิเศษ ผู้ผลักดันการท่องเที่ยวยั่งยืน ]
อีกหนึ่งไฮไลท์ในงาน Envision 2025 คือการปรากฏตัวครั้งแรกของ ‘เจ้าชายแฮร์รี่’ ดยุคแห่งซัสเซกซ์ ที่ได้ขึ้นเวทีปราศรัยในนามของ Travalyst องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่พระองค์ก่อตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
โดยเจ้าชายแฮร์รี่เรียกร้องให้ผู้คนในวงการท่องเที่ยวทั่วโลกเร่งลงมือทำ ผนึกกำลังกัน และให้วางเรื่องชุมชนและความยั่งยืนไว้ในใจกลางความสำคัญของธุรกิจท่องเที่ยว

“ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่วงการท่องเที่ยวทั่วโลกจะตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นพลังแห่งความดี สิ่งที่จะพิสูจน์ว่าเราจริงจังแค่ไหนคือการรับมือกับความยากลำบาก เราต้องไม่ท้อถอย” พระองค์กล่าว
และยังชี้ให้เห็นว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการท่องเที่ยวยั่งยืนในอนาคต โดยสังเกตว่านักท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ไม่เพียงเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายสูงที่สุดในโลก แต่ยังให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืนอีกด้วย
[ การเชื่อมโยงโลกผ่านการท่องเที่ยว ]
เพื่อให้ความตั้งใจทั้งหมดนี้เสร็จสมบูรณ์และทำให้การท่องเที่ยวเข้าถึงง่ายและเชื่อมโยงกันมากขึ้น Trip.com Group ได้ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่กับหน่วยงานการท่องเที่ยวชั้นนำระดับชาติและกลุ่มธุรกิจโรงแรมชั้นนำ
โดยในงานครั้งนี้ ‘ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์’ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เข้าร่วมพิธีเปิดตัวความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระดับโลกกับ Trip.com Group เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย
ในส่วนของธุรกิจโรงแรม การจับมือกับพันธมิตรใหม่ทั้ง Archipelago International จากอินโดนีเซีย, Seafest Hotel Group (Seafest Sdn Bhd) จากมาเลเซีย และCentara Hotels & Resorts จากประเทศไทย จะช่วยขยายเครือข่ายที่พักของ Trip.com Group ตลอดเส้นทางการท่องเที่ยวสำคัญในเอเชียและภูมิภาคอื่นๆ
สำหรับงาน Envision 2025 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญและเป็นการประกาศเจตจำนงที่จะนำอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเข้าสู่ยุคใหม่ ซึ่ง Trip.com Group ไม่เพียงแค่ปรับตัวเข้ากับอนาคตของการท่องเที่ยว แต่กำลังมุ่งมั่นสร้างสรรค์อนาคตที่แข็งแกร่ง










