มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภคยื่น กมธ.ปราบโกง สอบควบรวมทรู-ดีแทค ส่อขัด ม.157

มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภคยื่น กมธ.ปราบโกง สอบควบรวมทรู-ดีแทค ส่อขัด ม.157

สภาองค์กรผู้บริโภคชี้ควบรวมทรู-ดีแทค ทำประชาชนเดือดร้อน เข้าร้อง กมธ.ป.ป.ช. สอบ กสทช.ส่อขัดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) ขอให้สอบข้อเท็จจริง กรณีที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติต่อการควบรวมกิจการของทรู กับ ดีแทค เนื่องจากมติ 2 เสียงรับทราบการควบรวมโดยไม่ขออนุญาต 2 เสียงคัดค้าน และอีก 1 เสียงงดออกเสียง นั้นส่อขัดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

น.ส.สารี กล่าวว่า ตามประกาศ กสทช. หากจะมีการเข้าร่วมต้องใช้ประกาศปี 2561 ที่กำหนดไว้ว่า หากเป็นกิจการประเภทเดียวกัน ต้องปฏิบัติตามข้อ 8 ของประกาศ ปี 2549 ซึ่งหมายความว่า กสทช. มีอำนาจในการอนุญาตในการให้ควบรวมหรือไม่ให้ควบรวม แต่ กสทช. ทำหน้าที่เพียงการรับทราบ โดยเฉพาะมีกรรมการหนึ่งคนงดออกเสียง ทำให้สภาองค์กรผู้บริโภคเห็นว่าน่าจะเข้าข่ายการปฏิบัติหน้าที่ หรือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ

“เมื่อติดตามข้อเท็จจริงยังพบว่า กทสช. ดำเนินการไม่ครบถ้วนตามกระบวนการของกฎหมาย เช่นการไม่รับฟังความคิดเห็นที่เกี่ยวกับมาตรการหลังจากการรับทราบการควบรวมว่า มีการกำหนดมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างไร ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและอาจทำให้ไม่เกิดการลงทุนในพื้นที่ห่างไกล ทำให้คนจนพื้นที่ชายขอบจะเข้าไม่ถึงบริการทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ขณะที่มาตรการที่ออกมาไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค” น.ส.สารี กล่าว

ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ตามกฎหมายคณะกรรมการที่พิจารณาจะต้องมี 7 คน ทำไมในการลงมติจึงมีเพียง 5 คน ไม่รอกระบวนการคัดเลือกกรรมการให้ครบก่อนจึงพิจารณาวาระเรื่องการควบรวมทรู-ดีแทค โดยสงสัยว่าเหตุใดกระบวนการจึงเร่งรีบผิดสังเกต อาจเข้าข่ายมีผลประโยชน์ทับซ้อนใดหรือไม่ เพราะหากไม่มีคงไม่รีบดำเนินการแบบนี้ และเห็นใจประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการควบรวมกิจการดังกล่าว.

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภคยื่น กมธ.ปราบโกง สอบควบรวมทรู-ดีแทค ส่อขัด ม.157