‘ทรูมันนี่’ แอปอีวอลเล็ตไว้จ่ายเงินซื้อของ ตอนนี้ก้าวไปอีกขั้น คือมีบริการให้นักลงทุน ‘เปิดพอร์ตคริปโต’ ได้แล้ว ลงทุนขั้นต่ำเริ่ม 3,000 บาท มีผู้เชี่ยวชาญดูแลพอร์ตให้
ซึ่งบริการดังกล่าวเป็นการร่วมกับ ‘เมอร์เคิล แคปปิตอล’ (Merkle Capital) ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลรายแรกและรายเดียวในไทยตอนนี้ที่ได้ใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Cryptomind หรือบริษัทที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล
โดยทั้งคู่ชูจุดเด่นของบริการดังกล่าวว่า
-เป็นพอร์ตการลงทุนที่มีผู้เชี่ยวชาญจัดการให้ ซึ่งก็คือเมอร์เคิล แคปปิตอล เหมาะกับคนที่เทรดไม่เป็นแต่อยากลงทุนคริปโต หรือคนที่เทรดอยู่แล้วแต่เหนื่อยล้าที่จะเทรดเอง
-มีความปลอดภัยทั้งในเรื่องสินทรัพย์และข้อมูลของลูกค้า การันตีด้วยใบอนุญาตจาก ก.ล.ต.
-เปิดบัญชีง่าย ใช้เวลาเพียง 5 นาที (ไม่รวมขั้นตอนอนุมัติรับลูกค้าของเมอร์เคิล แคปปิตอล)
-ลงทุนขั้นต่ำเริ่มกองทุนละ 3,000 บาท
-ค่าธรรมเนียมการเทรด และการโอนข้าม exchange ถูกกว่าการลงทุนเอง เพราะกองทุนเป็นการลงทุนก้อนใหญ่
ถามว่า Pain Point อะไรที่ทำให้ทั้งคู่มาจับมือร่วมกันในครั้งนี้
ต้องย้อนไปว่าก่อนหน้านี้ เมอร์เคิล แคปปิตอล นั้นให้บริการจัดการพอร์ตลงทุนคริปโตฯ ให้กับนักลงทุนกระเป๋าหนัก หรือกลุ่ม High Net Worth ที่ลงทุนขั้นต่ำจะต้องใช้เงินขั้นต่ำหลักแสนไปจนถึงหลักล้านบาท
แต่ด้วยความที่มีเป้าหมายว่าอยากขยายฐานผู้ลงทุนให้ไปในระดับแมส
ทำให้นอกจากจะต้องลดเงินลงทุนขั้นต่ำลง เมอร์เคิล แคปปิตอลก็ต้องมองหาแพลตฟอร์มบริการทางการเงินที่มีคนใช้งานเยอะๆ ด้วย
และทรูมันนี่ที่มีฐานผู้ใช้งานปัจจุบันที่ 24 ล้านราย หรือกว่า 34% ของประชากรไทย ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยหากจะเป็นพาร์ทเนอร์กัน
ขณะที่ทรูมันนี่เอง แม้เราจะรู้จักกันดีว่าเป็นแอปพลิเคชั่นอีวอลเล็ตที่ใช้จ่ายเงินซื้อของได้ครอบคลุมที่สุดแอปหนึ่ง
แต่ถึงอย่างนั้น ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทรูมันนี่เริ่มให้บริการทางการเงินอื่นๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็น
-สินเชื่อ
-ประกัน
-การลงทุน ที่มีทั้งบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง หุ้นกู้ และกองทุนต่างๆ
และเมื่อการลงทุนในคริปโตฯ มาแรงมากในไทย โดยจากรายงาน Digital 2022 Global Overview โดย We Are Social และ Hootsuite เมื่อเดือน ม.ค. 2565 พบว่า คนไทยมีสัดส่วนการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลต่อจำนวนประชากรผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอายุ 16 – 64 ปี สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลกที่ 20.1%
การขยายบริการไปสู่ลูกค้ากลุ่มนักลงทุนคริปโตฯ ก็ถือเป็นการขยายการเติบไปอีกขั้น
แต่การลงทุนในคริปโตฯ แม้มีผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงด้วย ทรูมันนี่จึงเริ่มคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะตอบโจทย์ลูกค้าได้
จนมาเจอกับเมอร์เคิล แคปปิตอล ที่แตกต่างจากรายอื่นในตลาด เหมาะกับคนที่อยากลงทุนแต่ไม่มีเวลา ไม่ค่อยมีความเข้าใจ และความปลอดภัยสูง ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้จริง
สำหรับพอร์ตคริปโตฯ โดยเมอร์เคิล แคปปิตอล บนแอปทรูมันนี่ วอลเล็ต ตอนนี้มีทั้งหมด 4 ประเภทด้วยกัน คือ
1.M-Bitcoin Alpha – ลงทุนในบิตคอยน์แบบเต็มอัตรา (Fully Invested) เพื่อสะสมมูลค่าระยะยาว ไม่มี cut loss หากมูลค่าบิตคอยน์เปลี่ยนแปลง
2.M-Large Cap – เน้นลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งสกุลเงินและ Smart Contract Platform ที่เป็นผู้นำของอุตสาหกรรม คัดกรองด้วย Merkle Framework เพื่อหาสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้อย่างมั่นใจ
3.M-Metaverse – ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse Ecosystem รวมไปถึง Platform ที่เกี่ยวข้องกับ Games, NFT และ Infrastructure ของ Metaverse ชั้นนำของอุตสาหกรรมและมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว
4.M-Blockchain – ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Blockchain Infrastructure และ Smart Contract Platform เช่น ETH, SOL, LUNA และ เทคโนโลยี Layer 1, Layer 2 ชั้นนำของอุตสาหกรรม ที่กำลังกินส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว
นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด ผู้ให้บริการ ทรูมันนี่ วอลเล็ต กล่าวว่า พันธกิจของแอสเซนด์ มันนี่ นั้นต้องการช่วยให้ทุกคนเข้าถึงนวัตกรรมทางการเงินและชีวิตที่ดีขึ้น
“ที่ผ่านมาเราได้จับมือพันธมิตรชั้นนำเพื่อเปิดให้บริการทางการเงินและการลงทุนอันหลากหลาย ล่าสุดในวันนี้ก็คือการที่เราได้จับมือกับ เมอร์เคิล แคปปิตอล ในการให้บริการกลยุทธ์ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเปิดพอร์ตลงทุนคริปโตผ่านแอปพลิเคชันอีวอลเล็ตเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
“เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนคริปโต ทั้งสำหรับนักลงทุนมือใหม่ และนักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วไปที่ต้องการกระจายการลงทุนมายังสินทรัพย์ดิจิทัลในแบบที่มีผู้เชี่ยวชาญจัดการให้”
“โดยเราคาดว่าบริการกลยุทธ์ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีผู้เชี่ยวชาญจัดการให้นี้ จะช่วยดึงดูดผู้ใช้ใหม่ๆ เข้ามายังแพลตฟอร์มของเราด้วยเช่นกัน”
ทั้งนี้ ทรูมันนี่คาดว่าจะมีนักลงทุนเปิดพอร์ตไม่ต่ำกว่า 100,000 รายภายในปีนี้
นายอัครเดช เดี่ยวพานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ เมอร์เคิล เล็งเห็นว่ายังมีคนอีกจำนวนมากที่มีความสนใจเกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เพียงแต่ยังไม่ได้เริ่มเนื่องจากไม่คุ้นเคยและคิดว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจ
“ทำให้ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นอย่างไร หรือคิดว่าไม่มีเวลาดูตลาดเพราะมูลค่าคริปโตนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
“ดังนั้น การจับมือกันครั้งนี้ถือเป็นการขยายทางเลือกในการลงทุน พร้อมตอบสนองความต้องการของนักลงทุนรายย่อยเหล่านี้ให้มีโอกาสได้เข้าถึงการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบที่ไม่ซับซ้อนและปลอดภัยโดยได้รับการดูแลจากทีมงานของเรา ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการบริหารจัดการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมานาน โดยเชื่อว่าการเป็นพันธมิตรในครั้งนี้จะสามารถทำให้นักลงทุนเข้าถึงการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลได้ง่ายยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ เมอร์เคิล แคปปิตอล ตั้งเป้าภาพรวมบริษัทจะมี AUM หรือทรัพย์สินสุทธิที่อยู่ภายใต้การจัดการรวม 1 หมื่นล้านบาท จากต้นปีที่อยู่ที่ 1,200 ล้านบาท










