ชาว จ.ภูเก็ต และนักท่องเที่ยว ร่วมพิธีปล่อยเต่าตนุ คืนสู่ท้องทะเล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 รวมทั้งเพื่อเป็นการเพิ่มจำนวนเต่าทะเลในธรรมชาติ
วันที่ 28 ก.ค. 62 บริเวณชายหาดไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงานกิจกรรมปล่อยเต่าทะเลคืนสู่ธรรมชาติ ครั้งที่ 10 ซึ่งมูลนิธิเพื่อการอนุรักษ์เต่าทะเลหาดไม้ขาว ร่วมกับ โรงแรมเจดับเบิ้ล ยู แมริออท ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์สปา และ พันธมิตรมูลนิธิฯ จัดขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รวมเพื่อเป็นการเพิ่มจำนวนเต่าทะเลในระบบนิเวศน์ให้มีมากขึ้น และไม่สูญพันธุ์ โดยมีนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.), นางกนกกฤติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต, นาวาเอกพรพรหม สกุลเต็ม รองผู้อำนวยการ กองยุทธการ กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3, นายณัฐวัฒน์ นุ้ยศรีราม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ, นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน, นายแมทเธียส อีฟ ซุตเตอร์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเจดับเบิ้ลยู แมริออท ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ สปา ตลอดจนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ร่วมกันปล่อยเต่าตะนุลงทะเล จำนวน 40 ตัว
นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ในอดีตจังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งวางไข่ของเต่าทะเลที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย แต่ปัจจุบันสถานภาพมีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัด สาเหตุมาจากภัยคุกคามโดยกิจกรรมของมนุษย์ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ จากการทำประมง การทำลายแหล่งที่อยู่อาศัย อาหาร และแหล่งวางไข่ ปัญหาความเสื่อมโทรมของคุณภาพน้ำทะเล และปัญหาขยะทะเล ซึ่งการปล่อยเต่ากลับคืนสู่ท้องทะเลนั้น ไม่เพียงแต่เพื่อเพิ่มจำนวนประชากรของเต่าทะเลในธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังมุ่งหวังให้ทุกหน่วยงานภาครัฐ เอกชนและประชาชน เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมและสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์และฟื้นฟู ดังเช่นตัวอย่างการลงนามกันในปฏิญญาอนุรักษ์หาดไม้ขาว เพื่อเตรียมความพร้อมของพื้นที่ สำหรับการกลับมาวางไข่ของเต่าทะเลอีกครั้ง ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีในการอนุรักษ์ทรัพยากรอย่างยั่งยืนให้กับพื้นที่อื่นๆ ต่อไป
สำหรับเต่าตนุทั้ง 40 ตัว เป็นเต่าทะเลที่ได้รับการอนุเคราะห์จากกองทัพเรือภาคที่ 3 โดยเป็นไข่ของเต่าทะเลที่ฟักตัวที่เกาะสิมิลัน 1 ซึ่งภายหลังจากการฟักตัวบนเกาะในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแล้ว ทัพเรือภาคที่ 3 ได้นำกลับมาบนฝั่ง กระจายสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การอนุบาลของ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน และศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ฐานทัพเรือพังงา จนมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงและพร้อมเริ่มต้นชีวิตอิสระตามธรรมชาติในทะเลได้
