โซเชียลระอุหลังโจ๋เมืองอุบลเปิดศึกดวลปืนอย่างอุกอาจกลางเมือง ผู้คนพากันหนีตายจากกระสุนปืนเอ็ม 16 ปืนลูกซอง และปืน 9 มม.ที่สาดออกไปกว่า 70 นัด เมื่อสิ้นเสียงปืนปรากฎว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บไม่น้อยกว่า 7-8 ราย หลายคนออกมาวิพากษณ์วิจารณ์และประณามการกระทำที่สร้างความเดือดร้อนให้สังคม ทำให้ #กราดยิงอุบล ติดเทรนทวิตเตอร์พร้อมเรียกให้ตำรวจจัดการขั้นเด็ดขาด
• ลำดับเหตุการณ์กราดยิงกลางเมือง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเวลา 23.30 น. วันที่ (3 ส.ค. 2565) วัยรุ่น 2 กลุ่มทะเลาะกันในลานจอดรถตลาดนิกรธานี บริเวณลานร้านบันเทิง ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี จากนั้นมีเสียงปืนหลายชนิดดังขึ้นประมาณ 70-100 นัด ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ผู้คนที่มาใช้บริการในร้านอาหารพากันหนีตายอลมาน
เมื่อเสียงปืนสงบลงในที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บ 4 ราย อยู่ลานจอดรถจักรยานยนต์ 2 คน และอยู่ในร้านข้าวต้มอีก 2 คน หน่วยกู้ชีพได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม., กระสุนปืนกลไม่ทราบชนิด และกระสุนปืนลูกซอง ตกกระจายกว่า 70 นัด พบรถกระบะ, รถเก๋ง และจักรยายนต์ ความเสียหายอย่างน้อย 5 คัน
สืบสวนเบื้องต้นทราบว่า กลุ่มวัยรุ่นที่นัดกันมาเคลียร์ปัญหาส่วนตัวที่ร้านเนื้อย่างบริเวณจุดเกิดเหตุ แต่ตกลงกันไม่ได้จึงเปิดศึกดวลปืนกันขึ้น
• นักสืบโซเชียลขุดประวัติ ประณามการกระทำผู้ก่อเหตุ
ต่อมามีการแชร์คลิปผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่วิ่งหลบกระสุนปืนทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วย จากนั้นนักสืบโซเชียลได้ขุดประวัติผู้ก่อเหตุเคยมีประวัติกระทำความผิดมาแล้ว และโพสต์ภาพกลุ่มชายถอดเสื้อถือปืนโชว์แบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย
เห้ยคือไม่ใช่แล้วอะ ยิงมั่วมาก #กราดยิงอุบล pic.twitter.com/rNV59sMCRR
— รันจัง (@ffl1416) August 3, 2022
• นายกฯ สั่งผบ.ตร.ลงพื้นที่พร้อมรื้อคดีเก่าจัดการขัดเด็ดขาด
ล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการพล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำราจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงพื้นที่เร่งติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษ โดยคำนึงถึงพยานหลักฐานคดีเก่าๆ พิจารณาร่วมด้วย ซึ่งขณะนี้มีรายงานว่าจับผู้กระทำผิดได้ 1 รายแล้ว
นายกรัฐมนตรีกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่และฝ่ายปกครอง ดำเนินการอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะการควบคุมอาวุธปืนในที่สาธารณะ เพราะพฤติกรรมและการใช้อาวุธปืนในที่สาธารณะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย รวมทั้งมีการกวดขันและดูแลอย่างเข้มงวด ไม่ให้เหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไปได้รับความเดือดร้อน สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก
