รัฐมนตรีต่างประเทศสหรอาณาจักรประกาศ มอบเงินทุนก้อนใหญ่ก้อนใหม่แก่เอเชีย เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ปล่อยก๊าซเรือยกระจก ในวาระที่สหราชอาณาจักรเป็นเจ้าภาพการประชุม COP26
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 รัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศจะจะมอบเงินช่วยเหลือก้อนใหม่มูลค่า 110 ล้านปอนด์ (ราว 5 พันล้านบาท) แก่กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงเพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้เทคโนโลยีสะอาดและการฟื้นฟูประเทศโดยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือรู้จักในชื่อ “กองทุนสีเขียว”
กองทุนนี้มีชื่อทางการว่ากองทุนเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอาเซียน (ASEAN Catalytic Green Finance Facility) เปิดตัวในที่ประชุมสุดยอดสภาพภูมิอากาศ COP26 โดยจะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank) ซึ่งจะเพิ่มการเข้าถึงการเงินทุนเพื่อโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในกลุ่มประเทศอาเซียน และจะสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนของโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เช่นพลังงานหมุนเวียน การคมนาคมสะอาด และโครงสร้างพื้นฐานของเมืองในประเทศกำลังพัฒนาทั่วทั้งภูมิภาค
เงินก้อนนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของ ทุนกว่า 5 พันล้านปอนด์หรือประมาณ (2.27 แสนล้านบาท) ซึ่งรัฐบาลสหราชอาณาจักรและพันธมิตรในอาเซียนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนร่วมกันระดมเพื่อกระจายไปในโครงการสีเขียวต่าง ๆ ทั่วทั้งภูมิภาค โดยจะคัดเลือกให้เงินทุนเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานในประเทศกำลังพัฒนาที่ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเชื่อถือได้
รัฐบาลสหราชอาณาจักรคาดหวังว่าเงินลงทุนนี้จะช่วยสานสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นมายิ่งขึ้น และเพิ่มตำแหน่งงานใหม่ ๆ และสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศที่ได้รับเองและในสหราชอาณาจักร และเพื่อให้เป็นแหล่งเงินทุนทางเลือกจากแหล่งเงินทุนต่าง ๆ ที่มีอยู่
นางลิซ ทรัสส์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศและการพัฒนาสหราชอาณาจักร กล่าวว่า “สหราชอาณาจักรทำงานร่วมกับพันธมิตรผ่านการประชุม COP26 และงานด้านอื่น ๆ ที่มีร่วมกันเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สะอาด โปร่งใส เชื่อถือได้และเป็นที่ต้องการโดยเร่งด่วนรอบโลก เพื่อช่วยให้โลกบรรลุเป้าทางด้านสภาพภูมิอากาศ และจะยังช่วยขับเคลื่อนความเติบโตทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาผ่านการสนับสนุนข้อตกลงด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพสูงตามมาตรฐานระดับนานาชาติ
กลุ่มประเทศอาเซียนเป็นพันธมิตรที่สำคัญสำหรับสหราชอาณาจักรในเวทีโลก (Global Britain) และดิฉันรอที่จะได้สานสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเราให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นและพาเราก้าวไปสู่ยุคใหม่ที่ห้าวหาญ”
นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศ เน้นย้ำในเรื่องนี้และความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานสีเขียวที่จะนำมาใช้สร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สนับสนุนความมุ่งมั่นด้านสภาพภูมิอากาศในระหว่างการร่วมกิจกรรมและการประชุมกับพันธมิตรหลัก ณ การประชุม COP26 ในกลาสโกว์ นอกจากนี้นางลิซ ทรัสส์ยังกล่าวชัดเจนว่าสหราชอาณาจักรต้องระดมเงินลงทุนจากภาคเอกชนผ่านตลาดการเงิน และเชื่อมั่นว่าการค้า การลงทุนและตลาดเปิดเสรีไม่ใช่ตัวปัญหา แต่เป็นส่วนหนึ่งของทางออกในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การพัฒนาด้านเศรษฐกิจมีความจำเป็นต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีผู้คนอีกกว่า 5 ล้านคนที่กำลังเสี่ยงจะประสบกับสภาวะยากจนจากวิกฤตโควิด-19 ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นจำนวนมาก การเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานสีเขียวจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการจัดการปัญหาที่เกี่ยวพันซับซ้อนหลายส่วนนี้
สหราชอาณาจักรยืนยันผ่านงาน COP26 และคำมั่นที่ประกาศในงาน ว่ามุ่งมั่นสนับสนุนกิจการสีเขียวที่มีศักยภาพที่ช่วยสนับสนุนการฟื้นฟูสีเขียวในระบบขนส่งของเมือง พลังงานและน้ำหมุนเวียน และความสะอาด เพื่อช่วยประเทศต่าง ๆ ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจ










