รายชื่อประเทศที่อยู่ในลิสต์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากได้ประกาศมาตรการภาษีศุลกากรชุดใหม่ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ‘ญี่ปุ่น’ เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดด้วยอัตราภาษี 24%
ขณะเดียวกัน ‘ชิเงรุ อิชิบะ’ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันที่ 7 เมษายน เป็นการหารือครั้ังแรกเกี่ยวกับภาษีศุลกากรอัตราใหม่ของสหรัฐอเมริกา โดยพยายามหาโซลูชั่นร่วมกันต่างๆ นานา
โดยการจัดเก็บภาษีศุลกากรขั้นพื้นฐานต่อสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นไปอเมริกาอยู่ที่ 10% กับคู่ค้าทุกราย และในอัตราที่สูงขึ้นกับคู่ค้าบางราย
‘ยูนิโคล่’ (Uniqlo) คือหนึ่งในธุรกิจที่เพิ่งเปิดร้านสาขาใหม่ในสหรัฐฯ ได้ไม่นาน โดย 2 ร้านสาขาใหม่ที่เปิดและได้ผลตอบรับดีมาก อยู่ในรัฐเท็กซัสและแคลิฟอร์เนีย ทั้งยังมีส่วนทำให้ ‘ยอดขาย’ ของยูนิโคล่เพิ่มขึ้น ‘อย่างแข็งแกร่ง’ ในตลาดอเมริกาเหนือ
ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกกำไรกำลังเพิ่มขึ้นราว 25% สำหรับตลาดนี้ จากเดิมที่อเมริกาเหนือมีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 10% ของยอดขายสินค้ายูนิโคล่ ในปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนสิงหาคม 2024
[ สงครามภาษีไร้เหตุผล ]
‘ทาดาชิ ยานาอิ’ (Tadashi Yanai) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของแบรนด์ยูนิโคล่ ได้แสดงความคิดเห็นถึง ‘นโยบายภาษีศุลกากร’ ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ไว้ว่า “ไร้เหตุผล และ อยู่ได้ไม่นานหรอก” แน่นอน
และในฐานะที่ยูนิโคล่เป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมค้าปลีกแฟชั่นจากญี่ปุ่น เขาได้ปรับลดคาดการณ์ครั้งใหม่เกี่ยวกับแนวโน้มกำไร (earnings outlook) ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2025 ลงประมาณ 10,000 ล้านเยน หรือประมาณ 68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2,304 ล้านบาท) เหตุกังวลว่าจะได้รับผลกระทบ
“บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิครึ่งปีหลังจะได้รับผลกระทบ 2-3% จากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ”
“เราจะประเมินสถานการณ์ต่อไปตั้งแต่ปีงบประมาณหน้าเป็นต้นไป และจะตอบสนองอย่างเหมาะสม”
เขาได้วิพากษ์วิจารณ์สงครามภาษีของทรัมป์ว่า เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ไร้เหตุผล และเชื่อว่ามาตรการนี้จะอยู่ได้ไม่นาน เพราะสหรัฐฯ เองก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน
“มาตรการใหม่นี้จะทำให้สหรัฐฯ ถูกแยกตัวออกจากเวทีโลก”
ถึงแม้ว่า ทรัมป์ได้ระงับการขึ้นภาษีสินค้า 90 วันเป็นการตอบแทน 75 ประเทศที่ไม่ตอบโต้ใดๆ แต่ก็ยังคงเก็บภาษี 10% สำหรับสินค้าทั้งหมดที่ส่งไปยังสหรัฐฯ ต่อไป และ ‘จีน’ น่าจะเป็นประเทศที่โดนหนักที่สุด เพราะขยับมาตรการภาษีขึ้นอีกจาก 125% เป็น 145% (เริ่มต้นคือเก็บภาษี 104%)
[ สงครามภาษีรังแกชาติกำลังพัฒนา ]
ทาดาชิ ยานาอิ ยังกล่าวด้วยว่า ประเทศกำลังพัฒนาจะเผชิญกับ ‘หายนะ’ ที่รุนแรงแน่นอน หากโลกยังทำสงครามภาษีระหว่างกัน โดยเฉพาะจากต้นเรื่องก็คือ สหรัฐฯ
ที่ผ่านมา ฟาสต์รีเทลลิ่ง ต้องซื้อสินค้าจากโรงงานเสื้อผ้า 488 แห่งทั่วโลก ในจำนวนนี้ 74 แห่งอยู่ในเวียดนาม 34 แห่งอยู่ในบังกลาเทศ และ 30 แห่งอยู่ในกัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศที่ต้องจ่ายภาษีเพิ่มเติมจำนวนมาก ภายใต้มาตรการภาษีระยะที่ 2 ของโดนัลด์ ทรัมป์
ในแง่ของรายได้รวมของยูนิโคล่ ในช่วง 6 เดือนที่สิ้นสุดในเดือนกุมภาพันธ์ กำไรสุทธิของ Fast Retailing พุ่งขึ้น 19.2% จากปีก่อน
โดยแบ่งเป็นยอดขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 14.7% ในช่วงเวลาเดียวกัน และยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น 11.6%
ปัจจุบัน ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกเสื้อผ้าคาดการณ์กำไรจากการดำเนินงาน 545,000 ล้านเยน (3,700 ล้านดอลลาร์) และกำไรสุทธิ 410,000 ล้านเยนสำหรับปีที่สิ้นสุดในเดือนสิงหาคม
โดยตัวเลขกำไรจากการดำเนินงานสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ของบริษัท 2.8% ในขณะที่ตัวเลขกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 6.5%
นักวิเคราะห์โดย QUICK มองว่าบริษัทจะมีกำไรจากการดำเนินงาน 537,400 ล้านเยนสำหรับปีงบประมาณปัจจุบัน โดยบริษัทจะสามารถรับมือกับผลกระทบจากภาษีได้ เพราะซีอีโอพร้อมที่จะ ‘เปลี่ยนสถานที่ผลิต’ ได้มากเท่าที่ต้องการ จากแถบประเทศที่ยูนิโคล่ยังไม่เคยลอง เช่น แอฟริกา, อินเดีย หรือแม้แต่การใช้ฐานผลิตในจีนก็ตาม
อ้างอิง:
https://asia.nikkei.com/Business/Retail/Uniqlo-owner-Yanai-says-Trump-tariff-irrational-and-won-t-last
https://www.reuters.com/business/retail-consumer/uniqlo-operator-fast-retailings-q2-profit-jumped-33-raises-forecast-2025-04-10/










