
ทหารของกองกำลังว้าแดง กองพันที่ 778 สังกัดกองพลน้อยที่ 171 ฐานคายหลวง ตรงข้ามบ้านไม้ลัน อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ปางมะผ้า จำนวน 39 ราย หลังดื่มน้ำในลำธารแล้วเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียนและปวดท้องอย่างหนัก
วันนี้ (30 ก.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจรูญ สร้อยจิต นายอำเภอปางมะผ้า รายงานเหตุด่วนต่อนายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่าได้รับรายงานสถานการณ์ผู้ป่วยต่างชาติชาวว้าแดง เขตติดต่อชายแดน จำนวน 33 ราย ได้ส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลปางมะผ้า โดยผ่านด่านทหารบ้านไม้ลัน หมู่ 7 ตำบลปางมะผ้า อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.30 น. มีผู้ป่วยเป็นชาวว้าแดง เขตบ้านคายหลวง พื้นที่เขตรัฐฉาน สหภาพเมียนมา ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านไม้ลัน ต.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 33 ราย ได้ถูกส่งผ่านด่านทหารไทยบ้านไม้ลัน เข้ามารักษาตัวด้วยอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง บางคนหมดสติโดยทางทหารและขาวบ้านบ้านไม้ลัน ได้นำส่งตัวโดยรถยนต์ มารักษาต่อที่ รพ.ปางมะผ้า ในครั้งแรก จำนวน 11 ราย

ต่อมา โรงพยาบาลปางมะผ้า และ สสอ.ปางมะผ้า ได้ประสานงานกัน และส่งทีม จนท.รพ.สต.แม่ละนา ไปตั้งจุดรักษาพยาบาลเบื้องต้น ณ ด่านทหารบ้านไม้ลัน ตามหลักมนุษยธรรม เพื่อประเมินสถานการณ์และปรึกษาการรักษากับ นพ. สุพัฒน์ ใจงาม พบว่า ผู้ป่วยที่เหลืออีก 22 ราย จำเป็นต้องส่งต่อมารักษาโรงพยาบาลปางมะผ้า และเมื่อเวลา 23.10 น ได้ส่งตัวผู้ป่วยที่เหลือทั้งหมด มาที่ รพ. ปางมะผ้า รวมทั้งหมด 39 ราย เป็นชาย 37 เป็นหญิง 2 ราย ส่วนมากเป็นผู้ใหญ่
ทั้งนี้ สาเหตุการเกิดโรคดังกล่าว เบื้องต้นจากการสอบถาม หัวหน้าชุดทหารของว้าแดง ทราบว่าชาวบ้านว้าแดงไปพ่นยากำจัดศัตรูในพื้นภูเขาที่ใช้เพาะปลูก ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำ หลังจากพ่นยากำจัดศัตรูพืชเสร็จ เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำไหลเอายากำจัดศัตรูพืชลงมาในแหล่งน้ำดื่ม และชาวบ้านว้าแดงดื่มน้ำที่ปนเปื้อนดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลปางมะผ้า ได้จัดทีมรักษาชุดผู้ป่วยทั้งหมดอยู่ คาดว่าจะใช้เวลาดูแลรักษาประมาณ 2 วัน และจะได้รายงานสถานการณ์เพิ่มเติมให้ทราบต่อไป และทางอำเภอปางมะผ้า ได้มอบหมายฝ่ายความมั่นคง ประสานทหาร ร้อย ร.721 ในการควบคุมดูแลความเรียบร้อย









