‘อนุทิน’ หารือ ‘แอสตร้าเซนเนก้า’ พร้อมร่วมมือพัฒนาวัคซีนรองรับเชื้อกลายพันธุ์ เผยรับรักษาชาวเมียนมาที่บาดเจ็บ 7 คนตามหลักมนุษยธรรม แจงตรวจแล้วปลอดโควิด-19
วันที่ 31 มี.ค. 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า วันนี้ (31 มี.ค.) ได้มีการหารือร่วมกับผู้แทนบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ไทยแลนด์ ซึ่งให้คำยืนยันว่า การผลิตวัคซีนในประเทศไทยมีมาตรฐานตามที่กำหนด ทั้งการคงที่ การควบคุมคุณภาพ กรรมวิธีการผลิตทำได้ดีเกินมาตรฐานที่เขาคาดหวังไว้มาก ที่เป็นนี้เพราะผู้ผลิตในประเทศไทยยึดมั่นในขั้นตอนการผลิต และรับถ่ายทอดเทคโนโลยีตาม 100% จากนี้อยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในการตรวจเอกสาร และตรวจสอบคุณภาพวัคซีนก่อนส่งมอบต่อไป ซึ่งการขาดแคลนไม่เกิดขึ้นแน่นอน ทั้งนี้ ยังได้คุยกันถึงวัคซีนรุ่นต่อๆ ไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาพัฒนาวัคซีนเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรองรับสายพันธุ์อื่นๆ โดยเฉพาะสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ พร้อมให้ความร่วมมือในการพัฒนาร่วมกัน เหมือนกับที่เราให้ความร่วมมือในการพัฒนาวัคซีนรุ่นแรก
สำหรับการให้ความช่วยเหลือชาวเมียนมาตามแนวชายแดนไทยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดน ไทย-เมียนมาเรารับดูแลตามหลักมนุษยธรรม โดยเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2564 มีการรับผู้บาดเจ็บเข้ามารักษา พร้อมทั้งตรวจและควบคุมโรคโควิด-19 ด้วย 7 คน ซึ่งปลอดโควิด-19 ส่วนการหารือร่วมกับฝ่ายความมั่นคงในการจัดส่งวัคซีนไปฉีดให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนนั้น คร่าวๆ หลักๆ หมื่นคน ซึ่งไม่มีปัญหา เพราะเรามีวัคซีนสำหรับเจ้าหน้าที่ด่านหน้าอยู่แล้ว










