เทรนด์รักสุขภาพของคนไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีกำลังซื้อพอที่กล้าใช้จ่ายเพื่อตัวเองมากขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมฟิตเนสของไทยเติบโตรวดเร็วเฉลี่ยปีละ 8-10% หรือคิดเป็นมูลค่าราวๆ 10,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
เทรนด์ที่น่าสนใจตอนนี้ ผู้บริโภคไม่ได้เข้าฟิตเนสเพื่อใช้เครื่องออกกำลังกายที่ครบครันอีกต่อไป บางคนมองหาฟิตเนสที่มาพร้อมคลาสเรียนต่างๆ รวมถึงมองหากิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายมากขึ้น อาทิ ซาวน่า สระบำบัดกล้ามเนื้อด้วยน้ำ และอื่นๆ
[ Virgin Active ครบ 10 ปี ในไทย มีคลาสให้เล่น 60,000 คลาสต่อปี ]
เพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ‘Virgin Active’ หนึ่งในผู้เล่นตลาดฟิตเนสระดับโลก ต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์ตัวเองให้กลายเป็น ‘มากกว่าฟิตเนส’ หรือกลายเป็นคลับของคนรักสุขภาพ
โดย ‘Virgin Active’ เปิดคลาสออกกำลังกายเกือบ 60,000 คลาสต่อปีให้กับสมาชิกในประเทศไทย รวมถึงเปิดกิจกรรมฟื้นฟูร่างกาย ผ่อนคลาย และเพิ่ม Co-working Space ให้สมาชิกได้มานั่งทำงานหรือพักผ่อนได้ตามสบาย อีกทั้งยังเพิ่มเทคโนโลยีการบำบัดดูแลสุขภาพที่ช่วยให้สมาชิกสามารถผ่อนคลายได้มากขึ้น อาทิ
- ห้อง Sleep Pod ที่จะช่วยให้สมาชิกนอนหลับสนิทภายใน 20 นาที
- Spa Pool สระน้ำอุ่นระบบจากุซซี่ ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อจากความเมื่อยหล้า
‘จูเลียน เบรา’ ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Virgin Active เล่าให้ฟังว่า ธุรกิจของ Virgin Active อยู่ในตลาดด้านสุขภาพแบบองค์รวมระดับพรีเมี่ยม เปิดให้บริการในประเทศมาแล้ว 10 ปี และมีสาขาที่เปิดให้บริการอยู่ 8 สาขา และวางแผนขยายธุรกิจไปยังพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ ให้มากขึ้น รวมทั้งหัวเมืองต่างๆ เช่น เชียงใหม่
[ คนไทยเลือกเข้าฟิตเนสพิจารณาจากราคาเป็นหลัก แต่ก็ยอมจ่าย ]
นอกจากนี้ ‘จูเลียน เบรา’ เล่าให้ฟังอีกว่า ตลาดฟิตเนสในประเทศไทยจะเติบโตไปได้อีกเรื่อยๆ ปัจจัยสำคัญ คือ ผู้ใช้บริการกลุ่มแรกมุ่งเน้นไปที่ราคาเป็นปัจจัยการตัดสินใจหลัก ในขณะที่อีกกลุ่มมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ระดับพรีเมียมและครบครัน
ตลาดฟิตเนสของประเทศไทยถือเป็นตลาดน่าตื่นเต้นและมีการแข่งขันสูง โดยมีผู้เล่นทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงในลำดับความสำคัญต่อประสบการณ์มากกว่าราคา
ดังนั้น Virgin Active ที่เน้นประสบการณ์และความคุ้มค่าจึงมีโอกาสที่จะเติบโตไปพร้อมกับแนวโน้มของตลาดนี้










