10 ปีแรงงานไทย ค่าแรงขั้นต่ำสามร้อยกว่าบาท เพิ่มขึ้นแค่ 13-36 บาท

ย้อนไปปี 2555 รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ประกาศขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจาก 159-221 บาท/วัน เป็น 222-300 บาท/วัน มีผลบังคับใช้วันที่ 1 เม.ย. 2555 โดยจังหวัดที่ได้ค่าแรงสูงสุด 300 บาท/วัน ได้แก่ กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และภูเก็ต รวม 7 จังหวัด

จากนั้นในปี 2556 รัฐบาลประกาศปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอีกครั้งใน 70 จังหวัด ทำให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศไทยมีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเท่ากัน อยู่ที่ 300 บาท/วัน มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค. 2556 ซึ่งถือเป็นการทำตามนโยบายที่รัฐบาลหาเสียงไว้

แต่หลังจากปี 2556 อัตราค่าจ้างขั้นต่ำก็ไม่ขยับขึ้นอีกหลายปี จนกระทั่งปี 2560

รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจาก 300 บาท/วัน เป็น 300-310 บาท/วัน มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค. 2560 โดยจังหวัดที่ได้ค่าแรงสูงสุด 310 บาท/วัน ได้แก่ กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และภูเก็ต

ต่อมาในปี 2561 รัฐบาลประกาศปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอีกครั้งจาก 300-310 บาท/วัน เป็น 308-330 บาท/วัน มีผลบังคับใช้วันที่ 1 เม.ย. 2561 โดยจังหวัดที่ได้ค่าแรงสูงสุด 330 บาท/วัน ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และภูเก็ต ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้ค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่ 325 บาท/วัน

จากนั้น หลังการเลือกตั้งปี 2562 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ (2) ประกาศปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจาก 308-330 บาท/วัน เป็น 313-336 บาท/วัน มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค. 2563 โดยจังหวัดที่ได้ค่าแรงสูงสุด 336 บาท/วัน ได้แก่ ชลบุรี และภูเก็ต ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้ค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่ 331 บาท/วัน

ปัจจุบันปี 2565 ไม่มีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำมาแล้ว 2 ปี ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อัตราค่าจ้างขั้นต่ำของแรงงานไทยจึงเพิ่มขึ้นเพียง 13-36 บาท/วัน

อย่างไรก็ดี ในการเลือกตั้งปี 2562 พรรคพลังประชารัฐได้หาเสียงเอาไว้กับประชาชนว่า หากชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาลจะเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400-425 บาท/วัน แต่ปัจจุบันรัฐบาลยังไม่ได้ทำตามสัญญา