จากกรณีเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อ.แม่สอด ร่วมกับ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346 อ.แม่สอด ตรวจยึดอาวุธสงครามในบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ต.แม่ตาว อ.แม่สอด จ.ตาก และจับกุมผู้ต้องหาชาวไทยได้ 2 ราย โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าจากการข่าวอาจเป็นเรื่องสะสมไว้เตรียมความพร้อมด้านการเมือง
วันที่ 24 มิ.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตำรวจกำลังสอบสวนอยู่ และต้องทำรายงานมาให้ทราบ แต่ต้องสร้างความระมัดระวังในทุกพื้นที่ มีการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น
เมื่อถามว่าจะมีการขยายผลตรวจสอบพื้นที่อื่นด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ต้องดู ต้องสอบดูว่ามันมาจากใคร มาอย่างไร ให้ได้ตัวบุคคลก่อน ส่วนจะเป็นการซื้อขายอาวุธปกติตามแนวชายแดนหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่าไม่รู้ ต้องดูก่อน
ถามต่อว่าการเคลื่อนไหวทางการเมืองขณะนี้มีอะไรน่าห่วงหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรีตอบว่า ไม่มีๆๆๆๆๆ ไม่มีน่าห่วง กิจกรรมทางการเมืองก็เป็นเรื่องของเขาแต่ก็อย่าผิดกฎหมายแล้วกัน สำหรับเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เกี่ยวกับเรื่องโควิดอย่าเดียว อย่าเอาไปเกี่ยวข้องกับเรื่องการชุมนุมทางการเมือง
ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยความคืบหน้าว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 รายให้การค่อนข้างเป็นประโยชน์ เป็นพวกที่มีความคิด อุดมการณ์ทางการเมือง ส่วนจะไปดำเนินการร่วมกับกลุ่มใด รวมทั้งการจะนำไปใช้ในสถานการณ์ทางการเมืองจริงหรือไม่ อย่างไรเมื่อไหร่ ขอให้มีการขยายผลต่อไป แต่ทั้ง 2 คนไม่มีประวัติการค้าอาวุธมาก่อน
เรื่องความคิดทางการเมืองเราคงไปห้ามไม่ได้ แต่เรื่องของการครอบครองอาวุธแบบนี้ผิดกฎหมายชัดเจนอยู่แล้ว ขณะที่ที่มาของอาวุธอยู่ระหว่างการสืบสวน และส่งตรวจซีเรียลนัมเบอร์ ซึ่งกรณีนี้ถ้าไม่ได้การข่าวจากการสืบสวนคงไม่สามารถดำเนินการจับกุมได้ และอาวุธล็อตนี้ถ้าจับไม่ได้ก่อนก็มีโอกาสเข้ามาที่ กทม.
“เวลาไปซักถามต้องมีการตรวจสภาพร่างกายและดูในส่วนของวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ที่มี ในส่วนของแนวความคิดก็ต้องไปดูว่าเขามีเจตคติอย่างไร เพื่อนำไปประกอบการสืบสวนสอบสวนอยู่แล้ว มีการซักถามกันตลอดทั้งแต่เมื่อวานจนถึงเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นประเด็นที่ทางเราก็อยากรู้เหมือนกัน”
เมื่อถามว่าหากไม่ถูกจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนจะมาร่วมงานรำลึก 24 มิ.ย. 2475 ด้วยหรือไม่ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ต้องสอบปากคำก่อน ต้องไปดูว่าจะมีความเชื่อมโยงกันมากน้อยเพียงใด เพราะทั้ง 2 คนให้การยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับอาวุธจริงๆ และมีแนวความคิดอีกอย่างจริงๆ ซึ่งแนวคิดคงต้องเคารพ ทุกคนมีความคิด มีเจตคติที่เหมือนหรือต่างกัน แต่ถ้านำออกมาปฏิบัติแล้วเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ ถือเป็นเรื่องปกติ
เมื่อถามว่าฝ่ายความมั่นคงไม่ได้จัดฉากเพื่อสยบความเคลื่อนไหวการชุมนุม หรือเพื่อต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ต.อ.กฤษณะ ตอบว่า เขาจะทำไปเพื่ออะไร มันไม่ได้เกิดประโยชน์ ส่วน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกมาเพื่อบังคับให้ประชาชนอยู่ในกฎ ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ก่อนหน้าจะมีเชื้อโรคมาก็ไม่ได้มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนที่มีการขนอาวุธช่วงนี้ จริงๆ มีการข่าวอยู่ตลอดอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ช่วงนี้
กรณีที่สังคมมองว่าบังเอิญเกินไปเพราะเกิดขึ้นแค่ 1 วันก่อนการจัดกิจกรรม รองโฆษก ตร. กล่าวว่า การลักลอบก็เหมือนกับเรื่องยาเสพติด การลักลอบไม่ได้เกิดขึ้นเพราะช่วงเวลาใด เรามีหน้าที่จับก็ต้องจับ










