ผอ.โรงเรียนวัดบวรนิเวศเผย หลังประกาศเป็นโรงเรียนปลอดการบ้าน หวังให้เด็กได้มีเวลาว่างทำในสิ่งที่ชอบและสนใจ เรียนรู้นอกห้องเรียน และสามารถค้นหาความรู้ต่อที่บ้านได้ เพื่อให้เด็กได้เรียนอย่างมีความสุข
หลังจากที่โรงเรียนวัดบวรนิเวศมีการประกาศว่า ปีการศึกษา 2563 นี้จะเป็นโรงเรียนปลอดการบ้านผ่านเฟซบุ๊ก ก็เกิดเป็นกระแสไวรัล มีคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นในวงการการศึกษาไทย
นายเขษมชาติ อารีมิตร ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบวรนิเวศ กล่าวว่า จากข่าวที่โรงเรียนจะไม่มีการบ้านในปีการศึกษา 2563 นี้ ได้นำต้นแบบมาจากการศึกษาประเทศฟินแลนด์ ที่ไม่มีการบ้าน และไม่มีการสอบ เน้นให้เด็กได้ทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบและได้เรียนรู้ด้วยตัวเองมากขึ้น แต่เราเพิ่งเริ่มจึงค่อยๆทำในเรื่องไม่มีการบ้านก่อน เน้นให้จบภายในคาบ และยังมีการสอบเหมือนเดิม เรียนเร็วขึ้น เลิกเร็วขึ้น เพื่อให้เด็กได้มีเวลาหลังเลิกเรียนได้ทำในสิ่งที่สนใจ โดยโรงเรียนจะมีการตั้งชุมนุมให้หลากหลาย เช่น ทำอาหาร กีฬา อีสปอร์ต ดนตรี สเก็ตบอร์ด ติวหนังสือ ทบทวนบทเรียน และอื่นๆ โดยจะมีครูเป็นโค้ช เรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน เพื่อลดภาระและความเครียดของเด็ก ให้โฟกัสในสิ่งที่ชอบมากขึ้น ค้นหาตัวเองได้เร็วขึ้น และการเรียนก็มีประสิทธิภาพมากขึ้น และปรับเปลี่ยนวิธีการสอนของครูให้เข้าถึงเด็กมากขึ้น โดยมีการทำสื่อการเรียนการสอนลงในโซเชียลมีเดีย ให้เด็กเรียนรู้ต่อที่บ้านได้
ปัจจุบันโรงเรียนวัดบวรนิเวศ เป็นโรงเรียนชายล้วนขนาดเล็ก มีนักเรียน 234 คน ครู 30 คน โดยโรงเรียนจะเริ่มปลอดการบ้านในปีการศึกษา 2563 หรือเปิดเทอมวันที่ 16 พ.ค. นี้ โดยทางโรงเรียนจะมีระยะเวลาทดลอง 1 ปี แล้วมาวัดผลการเรียนจาก GPA คะแนนสอบ O-net และอื่นๆ ว่าจะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นหรือไม่ แต่เชื่อมั่นว่าจะต้องดีขึ้นแน่นอน
