เมื่อทีวียังมีพลัง Workpoint กับการสร้าง Edutainment ยุคใหม่ คุยกับ “เอ๋ย” ผู้อยู่เบื้องหลังการปั้นรายการ

เมื่อทีวียังมีพลัง Workpoint กับการสร้าง Edutainment ยุคใหม่ คุยกับ “เอ๋ย” ผู้อยู่เบื้องหลังการปั้นรายการ

ในยุคที่สื่อดั้งเดิมอย่างโทรทัศน์ต้องแข่งขันกับแพลตฟอร์มออนไลน์และโซเชียลมีเดียที่เต็มไปด้วยคอนเทนต์นับไม่ถ้วน แต่ละองค์กรจึงต้องเร่งปรับตัวให้ทันกับพฤติกรรมผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น

ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของ “Workpoint” หนึ่งในผู้นำด้านคอนเทนต์ของไทย ก็เลือกที่จะไม่หยุดนิ่ง แต่เดินหน้าพัฒนารูปแบบรายการให้ตอบโจทย์ยุคสมัย ต่อยอดจากจุดแข็งที่ตนเองถนัด นั่นก็คือการสร้างสรรค์ “ความบันเทิง” สู่แนวทางใหม่ที่ผสานทั้งสาระและความสนุกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

จากรายการเกมโชว์และควิซโชว์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Workpoint ได้พัฒนาไปสู่รายการแนว Edutainment ที่ทั้งให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจ เช่น The Bone เก่งเข้ากระดูก By ศิริราช, Genwit อัจฉริยะพันธุ์ใหม่ Presented by Bangchak Group , และ เกมสร้างสุข ร่วมกับ สสส. ซึ่งล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของ Workpoint ในการใช้ความบันเทิงเป็นเครื่องมือสื่อสารคุณค่าใหม่ๆ ให้กับสังคมไทย ที่ดูสนุก เข้าใจง่าย และ “ดูแล้วได้อะไรกลับไปเสมอ”

แล้วการ “ปั้นรายการใหม่” ของ Workpoint ในยุคที่สื่อเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว จะยังคงเอกลักษณ์ความเป็น Workpoint ไว้อย่างไร ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ผู้ชมรุ่นใหม่ได้ด้วย?

TODAY Bizview ได้พูดคุยกับ ‘ปรวีร์ ศรีอำพันพฤกษ์’ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายผลิตบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “เอ๋ย” ผู้อยู่เบื้องหลังการปั้นรายการที่สะท้อน DNA ของ Workpoint ยุคใหม่แล้วจะมาสรุปให้ฟังผ่านบทความนี้

[ Workpoint สร้างรายการความบันเทิงทุกรูปแบบ ส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม ]

‘เอ๋ย’ เล่าย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นว่า ย้อนกลับไปกว่า 20 ปีก่อน เป็นช่วงเวลาที่รายการแนว ควิซโชว์ (Quiz Show) และ เกมโชว์กำลังเฟื่องฟูสุดขีด โดยเฉพาะในยุคของ คุณปัญญา นิรันดร์กุล ที่ได้รับฉายาว่า “เจ้าพ่อเกมโชว์” รายการอย่าง อัจฉริยะข้ามคืน และ ชิงร้อยชิงล้าน กลายเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ชื่อของ Workpoint โดดเด่นในฐานะผู้นำด้านความบันเทิงของประเทศ

ต่อมา Workpoint ยังขยายแนวทางสู่ รายการร้องเพลง อย่าง ไมค์ทองคำ และ ชิงช้าสวรรค์ ที่ไม่เพียงมอบความสนุกให้ผู้ชม แต่ยัง “ส่งต่อแรงบันดาลใจ” ผ่านเรื่องราวชีวิตของผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งกลายเป็นหัวใจสำคัญของของบริษัทมอบความบันเทิงที่มีคุณค่าและให้แรงบันดาลใจ

และเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป พร้อมกับแนวคิดเรื่อง “ความหลากหลาย” ที่ผู้คนให้คุณค่ามากขึ้น Workpoint ก็เริ่มมองเห็นว่า แรงบันดาลใจไม่ได้จำกัดอยู่แค่เวทีร้องเพลง หรือคนหน้ากล้องที่มีรูปลักษณ์โดดเด่นเท่านั้น แต่ “คนเก่ง คนมีความรู้ หรืออัจฉริยะในสายอาชีพต่างๆ” ก็สามารถเป็นไอดอลของสังคมได้เช่นกัน

“อยากให้คนเก่งวิชาการกลายเป็นไอดอลบ้าง” เอ๋ย เล่าอย่างตรงไปตรงมา “ทุกวันนี้เรามีแต่คนร้องเพลง คนเต้น ที่ขึ้นแท่นเป็นไอดอล แต่คนที่เก่งด้านอื่นๆ โดยเฉพาะสายวิชาการ หรือสายอาชีพเฉพาะทาง ทำไมถึงจะเป็นไอดอลไม่ได้ล่ะ? เราอยากให้เด็กๆ เห็นว่าความเก่ง ความขยัน และความรู้ ก็เท่ไม่แพ้ใคร”

จากแนวคิดนี้เอง จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างรายการแนว Edutainment ที่ผสมผสานความรู้เข้ากับความสนุก เพื่อจุดประกายให้ผู้ชมมองเห็นคุณค่าของการเรียนรู้ในมิติใหม่ ผ่านรายการอย่าง The Bone เก่งเข้ากระดูก By ศิริราช, Genwit อัจฉริยะพันธุ์ใหม่ Presented by Bangchak Group และ เกมสร้างสุข ร่วมกับ สสส. ตัวอย่างของคอนเทนต์ที่สะท้อนทิศทางใหม่ของ Workpoint ที่ยังคงความสนุกไว้ครบ และช่วยเปิดมุมมองใหม่ให้คนรุ่นใหม่เห็นว่า การเป็น “อัจฉริยะ” ไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องเรียนเสมอไป

[ ปั้นรายการ Edutainment เพราะสาระกับความสนุกไปด้วยกันได้ ]

และอย่างที่บอกไปในตอนต้น Workpoint ถนัดในการทำรายการประเภท ควิซโชว์ (Quiz Show) หรือ เกมโชว์ ซึ่งถือเป็นลายเซ็นที่อยู่คู่บริษัทมาอย่างยาวนาน แต่สิ่งที่ทำให้รายการเหล่านี้ยังคงร่วมสมัยและเข้าถึงผู้ชมได้เสมอ คือแนวคิดการผสมผสาน “สาระที่เข้มข้น” เข้ากับ “ความสนุกที่ดูง่าย” หรือที่เรียกว่า Edutainment  (Education + Entertainment) นั่นเอง 

เอ๋ยเล่าว่าตัวเธอเองและทีมงานมองว่ารายการให้ความรู้ไม่จำเป็นต้องดู “เชย” หรือ “จริงจังเกินไป” แต่สามารถเล่าเรื่องยากให้น่าสนใจ เหมือนกำลังพูดคุยกับผู้ชมทางบ้านให้เข้าใจได้อย่างเป็นกันเอง

ในแต่ละโปรเจกต์ Workpoint ยังให้ความสำคัญกับการ “อัปเดตแนวคิดเกมให้เข้ากับยุคสมัย” ไม่ว่าจะเป็นการหยิบแรงบันดาลใจจากโลกของเกมออนไลน์และวิดีโอเกม เช่น Genwit อัจฉริยะพันธุ์ใหม่ Presented by Bangchak Group ที่ออกแบบระบบการแข่งขันคล้ายเกมต่อสู้ มีแถบพลังงาน (Energy Bar) ให้ลุ้นเหมือนในเกมจริง 

หรือการดึงคอนเซปต์ที่คนรุ่นใหม่คุ้นเคยอย่าง Escape Room มาสร้างรูปแบบเกมที่ท้าทายและเข้าใจง่ายในเวลาเดียวกัน อีกทั้งแต่ละตอนยังมีการสลับรูปแบบเกมและตำแหน่งการยืนของผู้เข้าแข่งขัน เพื่อให้รายการมีความสดใหม่และตื่นเต้นตลอดเวลา

[ หยิบผู้เชี่ยวชาญมาช่วยทำรายการให้ส่งต่อความรู้ให้ได้มากสุด ]

เบื้องหลังความสนุกเหล่านี้ Workpoint ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับ “ความถูกต้องของข้อมูล” เพราะรายการแนวสาระมีความเสี่ยงสูงต่อความคลาดเคลื่อน ทีมงานจึงทำงานร่วมกับ ผู้เชี่ยวชาญระดับสูง ในแต่ละสาขาอย่างใกล้ชิด เช่น รายการ The Bone เก่งเข้ากระดูก By ศิริราช ที่ได้รับการสนับสนุนจากทีมแพทย์และอาจารย์จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลเกือบทั้งภาควิชาในการตรวจสอบเนื้อหา 

นอกจากนี้ ทีมงานยังลงพื้นที่ศึกษาด้วยตนเอง เช่น เข้าเรียนในคลินิกคำหัตถการ หรือร่วมออกตรวจ OPD กับแพทย์จริง เพื่อเก็บแรงบันดาลใจจากสถานการณ์ในชีวิตจริงมาสร้างเป็นโจทย์ในรายการ

หรือ Genwit อัจฉริยะพันธุ์ใหม่ Presented by Bangchak Group ที่มีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ร่วมออกแบบและตรวจโจทย์ทุกข้อก่อนออกอากาศ 

นอกจากนี้ ‘เอ๋ย’ ยอมรับว่า ปัจจุบันไม่ใช่ยุคทองของโทรทัศน์อีกต่อไป ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นทั่วโลก แม้แต่ในประเทศที่วงการทีวีแข็งแรงอย่างสหรัฐอเมริกา พฤติกรรมของผู้ชมเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เลือกเสพคอนเทนต์ผ่าน YouTube, TikTok หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ มากกว่าการเปิดทีวี

เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ ทีม Workpoint จึงต้อง “คิดข้ามแพลตฟอร์ม” ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบรายการ เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งผู้ชมหน้าจอและผู้ชมออนไลน์ในเวลาเดียวกัน

คิดเผื่อการดูในหลายรูปแบบ (Multi-platform Thinking) รายการที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ ต้องสามารถต่อยอดเป็นคลิปออนไลน์ได้ทันที ทั้งในรูปแบบ คลิปตัด (Clip-cuts) หรือ คลิปไวรัล ที่แฟนรายการนำไปเผยแพร่ต่อเอง สร้างคอนเทนต์เสริม ควบคู่ไปด้วย 

[ DNA ของ Workpoint ที่เรียกว่า “กัดไม่ปล่อย” ]

สุดท้ายแล้ว กระแสตอบรับของรายการกลุ่ม Edutainment ออกมาดีล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็นโปรเจกต์ใหญ่หรือรายการสั้นก็ตาม เช่น The Bone แม้จะมีเพียง 3 เทปผู้ชมหลายคนให้ความเห็นว่ารับชมรายการแล้วมีแรงบันดาลใจ หรือแม้แต่ตัวคุณหมอผู้เข้าแข่งขันเองก็สามารถต่อยอดตัวเองให้เป็นไอดอลในชีวิตจริงได้

ทั้งหมดนี้เกิดจาก DNA ของ Workpoint ที่เรียกว่า “กัดไม่ปล่อย” ความมุ่งมั่นที่จะทำให้ผลงานทุกชิ้นออกมาดีที่สุด 

ไม่ว่าจะเป็นโปรเจกต์ไหน เอ๋ยกับทีมงานก็ทำงานอย่างเต็มที่ราวกับเป็นโอกาสครั้งสำคัญในชีวิต ด้วยทีมที่เชี่ยวชาญและพร้อมรับมือกับคอนเทนต์ยากๆ พวกเขาสามารถเปลี่ยนเรื่องซับซ้อนให้กลายเป็นความสนุกที่ทั้งให้สาระและสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างลงตัว  

“โชคดีมากๆ ที่ได้เจอทีมนี้ ถ้าไม่ได้ทีมนี้ อาจไม่มี GenWit หรือ The Bone ในแบบที่เห็นทุกวันนี้ก็ได้ เพราะทุกอย่างที่ออกมามันสะท้อน “ทีม” ล้วนๆ ไม่ใช่แค่ฝีมือของใครคนใดคนหนึ่ง พี่ก็ชอบพูดเสมอว่า ถ้าจะชมรายการนี้ อย่าชมพี่คนเดียว ให้ชมทีม เพราะทีมนี้เก่งจริงๆ” เอ๋ย กล่าว

[ เพราะสปอนเซอร์คือส่วนสำคัญให้รายการได้เกิดขึ้นจริง ]

และสิ่งที่ทำให้รายการแนว Edutainment ของ Workpoint แตกต่าง คือเบื้องหลังมักมี “ผู้สนับสนุนที่มีวิสัยทัศน์” อยู่เสมอคนที่ไม่ได้มองเพียงตัวเลขเรตติ้ง แต่เห็นว่ารายการเหล่านี้สามารถ “ส่งต่อคุณค่าบางอย่างให้สังคมได้จริง”

เช่น ผู้สนับสนุนรายใหญ่อย่าง “บางจาก” ที่ให้โจทย์กับทีมว่าอยากให้เด็กไทยกลับมารักวิทยาศาสตร์ เพราะเชื่อว่า “วิทยาศาสตร์สร้างชาติได้” หรืออย่างรายการ The Bone ที่เกิดจากการร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และ เกมสร้างสุข ที่ร่วมกับ สสส. เพื่อสื่อสารเรื่องสุขภาวะผ่านความสนุกของเกมโชว์

แม้รายการเหล่านี้จะมีความสั้นยาวไม่เท่ากัน แต่กลับถูกสร้างขึ้นอย่างละเอียดในทุกขั้นตอน ทั้งการออกแบบฉาก เกม เนื้อหา และโปรดักชันระดับใหญ่ มีผู้ร่วมรายการหลายสิบคน หรือแม้แต่นักเรียนจากทั่วประเทศ 

เพราะ Workpoint เชื่อว่า “แม้รายการสั้นๆ ก็สามารถสร้างแรงบันดาลใจได้ยาวนาน”
และเมื่อรายการหนึ่งประสบความสำเร็จ ก็ยิ่งสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้สนับสนุนรายอื่นๆ ว่าคอนเทนต์เชิงสาระก็มีคนดูจริง และสามารถส่งต่อคุณค่าได้โดยไม่ต้องละทิ้งความบันเทิง

ท้ายที่สุด เมื่อได้พูดคุยกับ ‘เอ๋ย’  ผู้ปลุกปั้นรายการสาระจาก Workpoint ที่ทั้งสนุก ฉลาด และเข้าถึงง่าย  สิ่งที่สัมผัสได้ไม่ใช่แค่ความคิดสร้างสรรค์หรือทักษะการเล่าเรื่องเท่านั้น แต่คือ “ความเชื่อมั่นในคุณค่าของความรู้” และศรัทธาในพลังของทีมที่อยู่เบื้องหลัง

เพราะสำหรับ Workpoint แล้ว การสร้างสรรค์รายการไม่ใช่แค่การสร้างความบันเทิง แต่คือการ สร้างพื้นที่ให้คนเก่งได้เปล่งแสงในแบบของตัวเอง ผ่านวิธีที่ผู้ชมดูแล้วรู้สึกสนุก เข้าใจ เกิดแรงบันดาลใจและอยากเรียนรู้ไปด้วยกัน..

AyosiriWriterAyosiri
เป็นนักข่าวการเงิน สนใจเรื่องการลงทุนและการตลาด ประวัติศาสตร์ อยากสื่อสารให้เรื่องเป็นเงินสำหรับทุกคน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง