มิลเลนเนียลส์ – Gen Z ในอนาคตจะกลายเป็น ‘เศรษฐีหน้าใหม่’ แทนที่ Baby Boomer

มิลเลนเนียลส์ – Gen Z ในอนาคตจะกลายเป็น ‘เศรษฐีหน้าใหม่’ แทนที่ Baby Boomer

ธุรกิจ

ถ้าให้ลองเดาเล่นๆ ว่าปัจจุบันกลุ่มช่วงอายุเท่าไหร่ที่มี ‘ความมั่งคั่ง’ หรือมีสินทรัพย์มากที่สุดในโลก คนส่วนใหญ่น่าจะเดาถูก นั่นก็คือ ‘Baby Boomer’ หรือกลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 54-72 ปี แต่อีก 15 ปีต่อจากนี้ อาจเปลี่ยนไป…

รายงานฉบับใหม่ของ Altrata หัวข้อ “World Ultra Wealth Report 2025” ตีพิมพ์ครั้งแรกใน Inside Wealth ของ CNBC ร่วมกับ Robert Frank ซึ่งเป็นคู่มือรายสัปดาห์สำหรับนักลงทุนและผู้บริโภคที่มีสินทรัพย์สูง

ได้เผยข้อมูลน่าสนใจว่า โดยคาดการณ์ว่าประชากรผู้มั่งคั่งระดับโลกจะเพิ่มเป็น 676,970 คน เพิ่มขึ้น 31% จากครึ่งแรกของปี 2025 ที่เพิ่มเข้าขึ้นประมาณ 166,160 คน

ขณะเดียวกัน ช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน 2025 ทั่วโลกมีบุคคลที่มีสินทรัพย์สุทธิสูง (The global ultra high net worth: UHNW) มีประมาณ 41.3 ล้านคน โดยแต่ละรายมีทรัพย์สินมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 32.3 ล้านบาท)

โดยในกลุ่มที่ค่อนข้างมั่งคั่งนี้ จากเดิมที่เป็นกลุ่มคน Baby Boomer คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของประชากร 510,810 คน เป็นคนที่มีทรัพย์สินอย่างน้อย 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 970 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นประมาณ 5.4% นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

[ ปรากฏการณ์ ‘กลุ่มเศรษฐีใหม่’ กำเนิดขึ้น ]

บทวิเคราะห์ของ Altrata ได้เผยข้อมูลใม่ว่า ภายในปี 2040 หรือราว 15 ปีข้างหน้า คาดว่ากลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลส์และเจเนเรชั่น Z จะคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของเหล่าเศรษฐีระดับโลก

แต่ความมั่งคั่งที่ว่านั้น จะไม่ใช่แค่มาจาก ‘มรดกตกทอด’ แต่กลุ่มคนรุ่นใหม่นี้จะสะสมความมั่งคั่งของตัวเองจากเทคโนโลยี และโซเชียลมีเดียมากขึ้น

ปัจจุบันคนรุ่นมิลเลนเนียลส์และคนรุ่น Z คิดเป็นเพียง 8% ของกลุ่มคนที่มั่งคั่ง ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมกันที่ 59.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,936 ล้านล้านบาท)  ตามข้อมูลของ Altrata ขณะที่กลุ่ม Baby Boomer ยังครองส่วนแบ่งใหญ่เกือบ 45%

ในอนาคตคข้างหน้า สัดส่วนของ Baby Boomer ที่มั่งคั่งจะลดลงเรื่อยๆ จาก 2 ใน 3 เหลือแค่ 1 ใน 5 ส่วนเจน X จะเข้ามาแทนที่สัดส่วน 45% ก่อนจะถูกแซงหน้าด้วย มิลเลนเนียส์ และ เจน Z ในที่สุด

Maya Imberg หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์จาก Altrata ให้ความเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงของกลุ่มเศรษฐีในอนาคต จะกระทบเป็นวงกว้างในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะบริการที่มอบสำหรับคนรวย คนมั่งคั่ง ที่ต้องปรับ Mindset ใหม่และความเข้าใจของคนรุ่นใหม่มากขึ้น

“ที่จริงพวกเขาต้องคิดล่วงหน้าจริงๆ สำหรับปรากฏการณ์ใหม่นี้ เพราะจริงๆ แล้ว 15 ปีไม่ได้ยาวไกลขนาดนั้น”

[ คนรุ่นใหม่เข้าถึงความมั่งคั่งง่ายกว่าเมื่อก่อน ]

ส่วนหนึ่งของการเติบโตของกลุ่มคนมั่งคั่งอายุน้อย เป็นผลมาจากการที่พวกเขาสามารถเข้าถึงความมั่งคั่งนั้นได้ง่ายกว่าคนสมัยก่อน การลงทุนกับสิ่งที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในช่วงเริ่มต้น อย่างโซเชียลมีเดียเป็นเรื่องถนัดสำหรับพวกเขา แต่กลับเป็นเรื่องใหม่สำหรับ Baby Boomer

อีกทั้งพวกเขาไม่จำเป็นต้องรอเงินมรดกจากการเสียชีวิตของใคร เพื่อมาต่อยอดทุนนั้น ให้งอกเงยขึ้นเป็นรายได้ที่มั่งคั่งในอนาคต ซึ่งนี่คือ หนึ่งจุดใหญ่ๆ ที่ทำให้เกิดความแตกต่างระหว่าง Baby Boomer และคนรุ่นใหม่ ที่กำลังจะกลายเป็นเศรษฐีหน้าใหม่เร็วๆ นี้

Altrata ได้แยกอุตสาหกรรมที่จะสร้างความมั่งคั่งให้คนกลุ่มนี้ได้ อย่างเช่น

  • 15% มาจากธุรกิจบริการและความบันเทิง
  • เกือบ 9% มาจากเทคโนโลยี
  • ภาคธนาคารและการเงิน ได้รับความนิยมสูงสุด
  • ส่วนที่เหลือ คือ การใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

Maya Imberg ได้กล่าวถึง การลงทุนหรือการต่อทุนกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในความมั่งคั่งเดิมในอุดมคติของ Baby Boomer ว่าปัจจุบันสิ่งเหล่านี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะคนรุ่นใหม่ไม่ได้มีความคิดว่า ต้องซื้อบ้านหลังแรก หรือซื้อรถคันแรก แม้แต่การมีบ้านพักตากอากาศหลังแรกก็ตาม

ขณะที่คนรุ่นใหม่อาจจะไม่มีความคิดแบบนี้มากนัก คนบางกลุ่มอาจมองว่า บ้านและรถยังจำเป็นต่อการใช้ชีวิต แต่ไม่ใช่เป้าหมายหลักแบบเดิม เป็นเพียงหนึ่งในองค์ประกอบที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเท่านั้น

แท็กที่เกี่ยวข้อง
Prakaiporn WriterPrakaiporn

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง