กกต. ขอความร่วมมือสื่อจัดเวลานำเสนอนโยบายพรรคการเมือง 60 พรรค พรรคละ 10 นาที หากพรรคการเมืองต้องการผลิตสื่อแถลงนโยบายพรรคเองต้องส่งให้ กกต.ตรวจสอบก่อน
วันที่ 29 ม.ค.2562 พ.ต.อ จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วยนายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. ได้ประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารสถานีวิทยุโทรทัศน์ ถึงกรอบเวลาที่ กกต. ขอความร่วมมือสถานีวิทยุโทรทัศน์ เพื่อสนับสนุนเวลาออกอากาศ ทั้งการแถลงนโยบายและการประชันการหาเสียงหรือดีเบตของพรรคการเมือง
พ.ต.อ จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.
ทั้งนี้ กกต. จะเป็นผู้กำหนดและจัดทำการดีเบตและนโยบายพรรคการเมือง แบบสำเร็จรูป พร้อมออกอากาศแก่สถานีได้เร็วที่สุด หลังเสร็จสิ้นการรับสมัครแล้ว เบื้องต้น กกต.ได้รับความร่วมมือจากสถานีโทรทัศน์ในการนำเสนอการแถลงนโยบายพรรคการเมือง พรรค ที่ประมาณว่าจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ประมาณ 60 พรรค โดยจะจัดสรรเวลาให้ไม่เกินพรรคละ 10 นาที จะใช้เวลาประมาณ 5 วันๆ ละ 60 นาที ซึ่งการผลิตสื่อการแถลงนโยบายพรรคการเมืองดังกล่าว พรรคการเมืองที่ประสงค์จะผลิตเอง จัดส่งให้ กกต.เพื่อขอรับการสนับสนุนการออกอากาศจากสถานีโทรทัศน์อย่างเท่าเทียมกัน
ส่วนการประชันการหาเสียงของพรรคการเมืองนั้น กกต.เป็นหน่วยงานดำเนินการเป็นเทปรายการ โดยทางพรรคการเมือง จำเป็นต้องแจ้งความประสงค์กับสำนักงาน กกต. ที่จะแบ่งกลุ่มตามขนาดและจำนวนผู้สมัครที่ส่งสมัครรับเลือกตั้ง โดยการจับสลากและจัดการ ดีเบตครั้งละ 2 พรรค เทปรายการความยาว 45-50นาที กำหนดการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ไม่เกิน 5 วัน
นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งจะแบ่งเป็นการนำเสนอนโยบายของพรรคการเมือง และการจัดเวทีดีเบต โดย 5 วันแรก เป็นการนำเสนอนโยบายของแต่ละพรรค 10 นาที และ 5 วันหลัง เป็นการประชันนโยายของแต่ละพรรคการเมือง ใช้เวลา 1 ชม.ต่อวันเพื่อนำเสนอ ระหว่างวันที่ 8-21 มี.ค.62 ซึ่งทางสถานีสามารถเลือกเผยแพร่ได้ตั้งแต่เวลา 06.00 – 24.00 น. โดยไม่จำเป็นว่าแต่ละสถานีจะต้องเผยแพร่ในช่วงเวลาเดียวกัน เพราะกกต.เข้าใจถึงผังรายการออกอากาศ และกรณีนี้เป็นการขอความร่วมมือ
“สำหรับประเด็นที่ทางสถานีสอบถามว่าสามารถจัดเวทีดีเบตได้เองหรือจัดรายการวิเคราะห์การเมืองได้หรือไม่นั้น ยืนยันว่าสามารถทำหน้าที่ของสื่อได้ตามปกติ ตามหลักวิชาชีพ แต่การจะเชิญตัวแทนพรรคการเมืองมาดีเบตหรือการเสนอข่าว ขอให้คำนึงถึงความเท่าเทียมทุกพรรคการเมือง หากให้น้ำหนักพรรคใดพรรคหนึ่ง อาจทำให้ถูกร้องเรียนได้”
