กรมราชทัณฑ์แจง “ฮาคีม” จำเป็นต้องใส่พันธนาการ สุ่มเสี่ยงหลบหนี

กรมราชทัณฑ์แจง “ฮาคีม” จำเป็นต้องใส่พันธนาการ สุ่มเสี่ยงหลบหนี

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงการใส่กุญแจข้อเท้า “ฮาคีม” เป็นไปตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ด้านผู้บัญชาการเรือนจำรับ งานราชทัณฑ์เสี่ยงละเมิดสิทธิมนุษยชน หากไม่ปฏิบัติเจ้าหน้าที่ก็เสี่ยงถูกดำเนินคดีหาผู้ต้องขังหลบหนี

วันนี้ (5ก.พ.62) เวลา 11.00 น. พันตำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ตามที่สื่อมวลชนเผยแพร่ภาพและข่าวให้เข้าใจว่า นายฮาคิม อัล – อาไรบี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน ถูกใส่ตรวน ขณะไปขึ้นศาลเพื่อขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน นั้น กรมราชทัณฑ์ ขอชี้แจงว่า กรณีดังกล่าว เป็นกุญแจเท้าไม่ใช่ตรวนอย่างที่เข้าใจกัน ซึ่งเป็นระเบียนขั้นตอนปกติที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์สามารถกระทำได้ตาม พ.ร.บ ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 มาตรา 21 ข้อ (4)  ความว่า“เมื่อผู้ต้องขังถูกคุมตัวไปนอกเรือนจำและเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีหน้าที่ควบคุมเห็นเป็นการสมควรที่จะต้องใช้เครื่องพันธนาการ” ซึ่งให้อำนาจเจ้าหน้าที่เรือนจำในการพิจารณาใส่เครื่องพันธนาการเป็นเรื่องที่ผู้ควบคุม เห็นแล้วว่าผู้ต้องขังรายนี้เป็นที่สนใจของสังคม และมีความเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่จึงพิจารณาเห็นสมควรใส่กุญแจข้อเท้า ซึ่งเป็นพันธนาการอย่างหนึ่งตามกฎหมาย

พันตำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า งานราชทัณฑ์เป็นงานสุ่มเสี่ยงที่จะถูกมองว่า เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งใคร่ขอชี้แจงต่อสังคมว่า เรามีหน้าที่ควบคุมและเคลื่อนย้ายนักโทษ และผู้ต้องขังที่ถูกจำกัดอิสรภาพ หรือถูกคุมขังไว้ตามอำนาจศาล หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปอย่างราบรื่นเรียบร้อย  มิให้มีการแหกหักหลบหนี จะปล่อยให้เดินลอยชายตามใจคงไม่สามารถทำได้ เนื่องจากหากผู้ต้องขังหลบหนีระหว่างการควบคุมก็จะเป็นภัยต่อสังคม และเจ้าหน้าที่ก็จะถูกตั้งกรรมการสอบ ข้อหาละเว้น หรือละเลย ดังนั้น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยพิจารณาจากกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 ซึ่งได้ให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชนเพิ่มมากขึ้นอยู่แล้ว

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง