
ก้อนไขมันขนาดมหึมาจากท่อระบายน้ำสมัยวิกตอเรียในกรุงลอนดอน ถูกนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ เพื่อแสดงถึงปัญหาจากการเจริญเติบโตของเมือง
นี่เป็นก้อนไขมันสะสมในท่อระบายน้ำที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยวิกตอเรีย เขตไวท์ชาเปล ทางตะวันออกของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ถูกนำมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ลอนดอน (Museum Of London) ตั้งแต่วันที่ 9 – 1 กรกฎาคม 2561 นี้ เพื่อแสดงและตระหนักถึงปัญหาสารพิษจากการเจริญเติบโตของเมืองและการดำเนินชีวิตของประชาชน

ก้อนไขมันหรือที่เรียกว่า Fatbarg นีี้ ถูกค้นพบเมื่อเดือนกันยายน 2560 ถือเป็นก้อนไขมันสะสมขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา รวมๆ แล้วมีความยาวประมาณ 250 เมตร หนัก 130 ตัน เทียบเท่ารถบัสโดยสาร 11 คัน และยาวเท่าสนามฟุตบอล 2 สนาม หลังจากเมื่อปี 2556 ก็เคยพบก้อนไขมันอุดตันในท่อระบายน้ำในเมืองคิงสตันมาแล้ว แต่ครั้งล่าสุดที่พบมีขนาดใหญ่กว่าถึง 10 เท่า
ส่วนมาจากการทิ้งของเสียลงสู่ท่อระบายน้ำของประชาชน ทั้งน้ำมัน ไขมัน กระดาษชำระ อุดตันรวมกันเป็นก้อน ผ้าอ้อม ขยะอันตรายอื่นๆ และยังพบถุงยางอนามัย ที่เต็มไปด้วยเชื้อโรค ส่งกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรง และยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดน้ำท่วมในเขตไวท์ชาเปล
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานกว่า 3 สัปดาห์ และใช้เครื่องมือขุดเจาะกำลังแรงสูงขุดก้อนไขมันนี้ขึ้นมา และต้องใช้ความระมัดระวังสูงเนื่องจากปนเปื้อนไปด้วยสารพิษอันตราย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอีกว่า ก้อนไขมันนี้จะถูกนำมาจัดแสดงเพื่อสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของเมืองเก่าอย่างกรุงลอนดอน ทั้งการเพิ่มขึ้นของประชากร ระบบท่อแบบเก่าที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรับมือกับปัญหา แต่ดูเหมือนปัญหาสำคัญที่สุดมาจากพฤติกรรมของประชาชน และสิ่งที่จะแก้ไขปัญหานี้ก็ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนด้วยเช่นกัน
ขณะที่บริษัทเทมส์วอเทอร์ ผู้ดำเนินธุรกิจท่อระบายน้ำในกรุงลอนดอน กล่าวว่า ต้องใช้เงินเกือบ 1.4 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน เพื่อจัดการกับก้อนสารพิษอุดตันเหล่านี้ โดยจะนำไปผ่านกระบวนการรีไซเคิล นอกจากนี้ยังเริ่มแคมเปญชื่อ Bin it – don’t block it ให้ข้อมูลแก่ประชาชนเกี่ยวกับรายการขยะที่ต้องทิ้งใส่ขยะ แทนที่จะปล่อยของเสียลงน้ำ
คลิปประกอบ Associated Press, CBSDFW









