
เจ้าชายเซอีด ราอัด อัล ฮุซเซน ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนยูเอ็นกล่าว ออง ซาน ซูจี ควรลาออก รับผิดชอบเหตุกวาดล้างชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่
เจ้าชายเซอีด ราอัด อัล ฮุซเซน ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าวว่า นางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมาควรลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุกวาดล้างชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่เมื่อปี 2560
เนื่องจากนางซูจีเคยกล่าวว่าการลี้ภัยของชาวโรฮีนจามาจากข้อมูลที่ผิดพลาด และให้ความชอบธรรมแก่กองทัพในการปราบปรามในพื้นที่ดังกล่าวว่าเป็นการตอบโต้กลุ่มก่อการร้าย

ออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา
นอกจากนี้ตามรายงานขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมาควรถูกดำเนินคดีกระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮีนจาด้วย
ก่อนหน้านี้กองทัพเมียนมาได้สั่งปลดและลงโทษนายทหารระดับสูงมาแล้วเมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา เพราะมีชื่ออยู่ในมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงต่อชาวโรฮีนจาจากปฏิบัติการทางทหารในรัฐยะไข่

ตามรายงานระบุว่า นายทหารเมียนมา 7 นายที่ถูกอียูคว่ำบาตร มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารชาวโรฮีนจา 10 คน ที่หมู่บ้านในยะไข่เมื่อกันยายนปีที่แล้ว
ขณะที่ล่าสุด พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองทัพสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ได้ถูก ‘เฟซบุ๊ก’ ผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมระดับโลกระงับบัญชีส่วนตัวไปพร้อมกับบุคคลและหน่วยงานเมียนมา

พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองทัพสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
โดยทางบริษัทเครือข่ายสังคมยักษ์ใหญ่อ้างว่า มีการใช้พื้นที่เฟซบุ๊กสร้างความเกลียดชังชาวโรฮีนจา และหวังที่จะแก้ปัญหาข่าวปลอม
ทั้งนี้ ปฏิบัติการทางทหารของกองทัพเมียนมาตั้งแต่ปี 2560 ส่งผลให้ชาวโรฮีนจาต้องอพยพไปบังกลาเทศกว่า 7 แสนคน อีกจำนวนหลายคนต้องบาดเจ็บและเสียชีวิต
ด้านองค์การสหประชาชาติเองได้ออกประนามการกระทำของกองทัพเมียนมาว่า อาจเข้าข่ายการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮีนจา
ภาพโดย AFP









