
ประเด็นคือ – คาดอีก 40 ปีความต้องการนมในจีนจะมากกว่ากำลังผลิตทั้งโลกตอนนี้ และจะยิ่งซ้ำเติมปัญหาโลกร้อนให้เลวร้ายลง
รูปแบบการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไปทำให้คนจีนหันมาดื่มนมกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ผลการศึกษาของสถาบันวิทยาศาสตร์จีนซึ่งเผยแพร่ทางวารสาร Global Change Biology คาดว่าภายในปี 2593 การบริโภคนมในจีนจะเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าจากระดับที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน หรือก็คือมากกว่าปริมาณนมที่ผลิตได้ทั่วโลกเวลานี้ ฟังดูอาจเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไรกับใคร แต่เชื่อหรือไม่ว่าถ้าตัวเลขนี้เป็นจริง ทั่วทั้งโลกจะได้รับผลกระทบ เพราะความต้องการนมที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนี้จะทำให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเลี้ยงปศุสัตว์เพิ่มขึ้นถึง 35%
เวลานี้มีวัวทั่วโลกอยู่ประมาณ 270 ล้านตัวซึ่งการทำปศุสัตว์ทำให้เกิดแอมโมเนีย มีเทนและไนโตเจนออกไซด์ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคเกษตรกรรมคิดเป็น 14% ของทั้งหมด
เพื่อรองรับความต้องการนี้ ไม่ว่าจีนจะเพิ่มจำนวนวัวที่เลี้ยงในประเทศหรือเพิ่มการนำเข้าจากต่างประเทศ ก๊าซเรือนกระจกก็จะถูกปล่อยออกมามากขึ้น
นักวิจัยจากสถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมในเนเธอร์แลนด์ มองทางออกของเรื่องนี้ว่า “การเพิ่มปริมาณนมด้วยวิธีคิดง่าย ๆ แค่เพิ่มจำนวนวัวหรือขยายพื้นที่ปศุสัตว์ มีแต่จะยิ่งเพิ่มภาระให้กับสิ่งแวดล้อม หนทางที่น่าจะเป็นไปได้คือ แทนที่จะเพิ่มจำนวนวัว จีนต้องหาทางเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตนม”
แต่หลายฝ่ายก็เกรงว่าแม้จีนจะเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ก็จะต้องมีก๊าซเรือนกระจกถูกปล่อยออกมามากขึ้นอยู่ดี อาจจะประมาณ 20-25% สรุปคือความต้องการนมที่เพิ่มขึ้นในจีนจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ปัญหาโลกร้อนเลวร้ายลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อ้างอิง THE PLANET CANNOT SUPPORT CHINA’S GROWING DEMAND FOR MILK China’s increasing demand for milk will have far-reaching consequences for the world









