
จีนยืนยันไม่พบการ ‘โจมตีด้วยเสียง’ ที่ทำให้พลเมืองอเมริกันบาดเจ็บทางสมอง ขณะทำงานที่สถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองกวางโจว ตามที่สหรัฐฯ ออกประกาศเตือน
วันที่ 24 พ.ค. 61 นาย หลู คัง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน ชี้แจงว่า ไม่พบร่องรอยที่จะสามารถอธิบายได้ว่ามีการโจมตีด้านสุขภาพ หรือการโจมตีด้วยเสียง ที่ทำให้พลเมืองชาวอเมริกันที่ทำงานที่สถานกงสุลสหรัฐฯ ประจำเมืองกวางโจวของจีน จนทำให้ได้รับบาดเจ็บทางสมอง
นายหลู ระบุว่า จีนปฏิบัติตามสนธิสัญญาเวียนนาที่จะต้องรักษาความปลอดภัยของบุคลากรและองค์กรต่างประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย ซึ่งจีนได้ดำเนินการตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว แต่ยังไม่พบสิ่งที่นำไปสู่สถานการณ์ที่ทางสหรัฐฯ กล่าวอ้าง

หลู คัง / www.china-embassy.org
เมื่อวานนี้ (23 พ.ค. 61) สหรัฐฯ ได้ออกเตือนพลเมืองชาวอเมริกันที่สถานกงสุลสหรัฐฯ ดังกล่าว หลังจากพบว่า เจ้าหน้าที่อเมริกันรายหนึ่ง มีอาการผิดปกติหลายอย่างทางร่างกาย ระหว่างช่วงปลายปี 60 และเดือน เม.ย. 61 ขณะทำงาน จึงได้ส่งตัวเจ้าหน้าที่ดังกล่าวกลับสหรัฐฯ เพื่อตรวจวินิจฉัย ก่อนพบว่ามีอาการบาดเจ็บที่สมองเล็กน้อย

สถานกงสุลสหรัฐฯ ในกวางโจว ประเทศจีน
คำเตือนระบุว่า “ขณะที่อยู่ในประเทศจีน หากคุณมีอาการทางหูพร้อมกับเสียงรบกวนแปลกๆ อย่าพยายามค้นหาต้นตอที่มาของเสียง แต่ควรไปอยู่ในที่ที่ไม่ได้ยินเสียงดังกล่าวแทน”
ซึ่งท่าทีล่าสุดของสหรัฐฯ นางเฮเทอร์ นวเอร์ต โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ได้เตรียมส่งทีมแพทย์ไปยังกวางโจว ในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อตรวจร่างกายแก่เจ้าหน้าที่กงสุลทุกคนที่ต้องการตรวจ
ขณะที่หนังสือพิมพ์ Global Times ของจีน ชี้ว่า การที่สหรัฐฯ ออกคำเตือนระหว่างการโจมตีด้านสุขภาพดังกล่าว เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ที่สถานการณ์ยังไม่ชัดเจน และไม่เชื่อว่าจีนจะโจมตีเจ้าหน้าที่กงสุลสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ทางสหรัฐฯ ระบุว่ายังไม่สามารถเชื่อมโยงกับเหตุการณ์โจมตีด้านสุขภาพที่คิวบาได้
สำหรับการโจมตีที่คิวบาเกิดขึ้นเมื่อ พ.ย. 2559 นักการทูตชาวอเมริกันที่ประจำอยู่ที่กรุงฮาวานา เมืองหลวงคิวบา เริ่มสังเกตว่าพวกเขามีอาการแปลกๆ ทั้งอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ และปัญหาการได้ยิน
โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขฮานาวาระบุว่า มีมากกว่า 20 คน ได้รับอันตรายจากการโจมตีด้านสุขภาพ ที่คาดว่าใช้คลื่นเสียงมาทำลายสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีอย่างน้อย 2 คนในแคนาดา ได้รับผลกระทบเช่นกัน
ซึ่งทางสหรัฐฯ เรียกร้องความรับผิดชอบจากคิวบาที่ปล่อยให้เกิดการโจมตี แต่ทางคิวบาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใดและชี้ว่าเป็นการใส่ร้ายทางการเมือง ทางสหรัฐฯ จึงขับไล่นักการทูตคิวบา 15 คน ออกจากประเทศ ด้วยเหตุผลว่า ไม่สามารถปกป้องเจ้าหน้าที่สถานทูตฯ ในกรุงฮาวานาได้









