
นักโบราณคดีค้นพบหลุมฝังศพเด็กนับร้อยศพในเปรู คาดเป็นเหยื่อจากการทำพิธีบูชายัญหมู่ครั้งประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ เมื่อราวๆ 550 ปีก่อน ที่คนโบราณเชื่อว่าเป็นการปัดเป่าภัยธรรมชาติ สภาพอากาศที่เลวร้ายออกไป
สื่อต่างประเทศรายงานว่า นักโบราณคดีค้นพบศพเด็กราวๆ 140 ศพ อายุระหว่าง 5-14 ปี (ส่วนใหญ่ 8-12 ปี) ที่เชื่อว่าเป็นเหยื่อในพิธีกรรมบูชายัญหมู่ในอดีต เมื่อประมาณ 550 ปีก่อน ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองสมัยใหม่ของทรูฮีโย และยังมีซากของยามา (สัตว์ตระกูลอูฐ) อีกกว่า 200 ตัว
พบว่าเหยื่อมีรอยตัดกระดูก กระดูกสันอก กระดูกตรงกลางหน้าอก กระดูกซี่โครงหลายซี่ รวมถึงมีสิ่งที่บ่งบอกว่าหัวใจของเด็กๆ ถูกควักออกมา นอกจากนี้ เด็กหลายคนยังถูกทาด้วยสีแดงสดที่ทำจากผงชาด (ซินนาบาร์) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรม

Haagen Klaus นักวิจัยจาก National Geographic กล่าวว่า ที่เด็กๆ ต้องตกเป็นเหยื่อบูชายัญ เนื่องจากเมื่อคนโบราณนำเหยื่อที่เป็นผู้ใหญ่มาบูชายัน เพื่อปัดเป่าสภาพอากาศที่ย่ำแย่ออกไป แต่กลับไม่เป็นผล
“เหยื่อที่ถูกบูชายันมีค่ามากและยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับพวกเขา พวกเขาอาจเห็นว่า ‘บูชายัญผู้ใหญ่’ อาจไม่ได้ผล สภาพอากาศก็ยังมีฝนตกลงมาต่อเนื่อง บางที่อาจมีความจำเป็นต้องหาเหยื่อรุ่นใหม่ๆ” นักวิจัยกล่าว

จากการตรวจสอบคาร์บอนในสิ่งของจำพวกผ้าแล้วคาดว่าเหตุการณ์จะอยู่ในช่วงคริสตศักราช 1400-1450 และเมื่อตรวจสอบชั้นโคลนพบว่าพื้นที่ดังกล่าวอาจเผชิญกับฝนตกหนักและน้ำท่วมในพื้นที่แห้งแล้ง จากปรากฎการณ์เอลนีโย
รายงานระบุว่า หลุมฝังศพถูกสร้างขึ้นโดยอาณาจักรชิมูโบราณ ที่บูชาพระอาทิตย์และดวงจันทร์ ก่อนถูกจักรวรรดิอินคาเข้ายึดครอง และถูกสเปนยึดครองในเวลาต่อมา โดยการค้นพบครั้งแรกเมื่อปี 2554 พบซากศพ 40 ศพ และตัวยามาอีก 74 ตัว ในระหว่างการขุดวิหารที่มีอายุ 3,500 ปี
ที่มา Peru child sacrifice discovery may be largest in history, National Geographic









