
ประชาชนร่วม 7 แสนคน ทั้งชาวอังกฤษและชาวยุโรปจากประเทศต่างๆ เดินทางไปร่วมเดินขบวนในกรุงลอนดอนเพื่อคัดค้านการถอนตัวจาก “อียู” นอกจากนี้ยังมีคนอีกเฉียดล้านลงชื่อออนไลน์เรียกร้องให้รัฐบาลจัดทำประชามติเรื่อง “เบร็กซิต” หรือการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปอีกครั้ง นับจากผลประชามติเมื่อปี 2559
ความเคลื่อนไหวของชาวอังกฤษที่ออกมาชุมนุมและเดินขบวนไปยังรัฐสภา เพื่อแสดงพลังเรียกร้องขอให้รัฐบาลอังกฤษจัดลงประชามติรอบใหม่เรื่อง เบร็กซิต หรือ การแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป เพราะการตัดสินใจถอนตัวจากอียูอาจทำให้เศรษฐกิจเสียหาย ซึ่งขณะนี้ประชาชนในอังกฤษเริ่มเห็นว่าการต่อรองกับ “อียู” ในหลายๆด้าน ไม่เป็นไปอย่างที่คิด

นายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ระบุว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุไม่ถึงเมื่อครั้งประชามติครั้งที่แล้ว ต้องการขอโอกาสที่ 2 ในการจัดประชามติไม่ให้แยกตัวจากสหภาพเพื่ออนาคตของเขาในฐานะคนรุ่นไม่ เพราะพวกเขากังวลว่า นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ ของอังกฤษ จะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้ากับอียูในอนาคตได้ เพราะเหลือเวลาอีกแค่ 5 เดือนก็จะถึงกำหนดที่อังกฤษจะต้องแยกตัวจากอียูอย่างเป็นทางการแล้ว
อย่างไรก็ตามนางเทเรซา เมย์ ได้ประกาศชัดเจนระหว่างการประชุมสภาเมื่อวันพุธ ที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่าจะไม่มีการทำประชามติรอบที่ 2 แปลว่า อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป โดยไม่มีข้อตกลงทางการค้าใดๆ รวมถึงอังกฤษ อาจต้องเสียสิทธิด้านต่างๆในสหภาพยุโรปทั้งหมดไปโดยปริยาย
การชุมนุมนี้ยังจัดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ “กลุ่มผู้สนับสนุน” การแยกตัวจากสหภาพยุโรปจัดขึ้น เพื่อกดดันให้รัฐบาลเดินหน้ากระบวนการถอนตัวจาก “อียู” (สหภาพยุโรป) ให้สำเร็จอีกด้วย










