
ประเด็นคือ – องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศแต่งตั้ง “รอเบิร์ต มูกาบี” ประธานาธิบดีแห่งซิมบับเว เป็นทูตสันถวไมตรีขององค์กร ขณะที่ทั่วโลกตกตะลึงและส่งเสียงประณาม
เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 60 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มูกาบี ในวัย 93 ปี เป็นผู้นำประเทศที่มีอายุมากที่สุดในโลกในปัจจุบัน ถูกประชาชนในประเทศวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการเดินทางไปรักษาพยาบาลในต่างแดน ขณะที่เศรษฐกิจซิมบับเว ที่เคยรุ่งเรืองกำลังล่มสลาย และ มูกาบี ยังถูกรัฐบาลสหรัฐฯ คว่ำบาตรจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลภายใต้การปกครองแบบเผด็จการอำนาจนิยมของมูกาบี

การแต่งตั้งซึ่งถูกประกาศเมื่อต้นสัปดาห์นี้ที่ประเทศอุรุกวัย สร้างความสับสนและโกรธเคืองต่อกลุ่มนักเคลื่อนไหวระหว่างประเทศ นอกจากนี้ รัฐบาลอังกฤษยังวิจารณ์ว่าการตัดสินใจขององค์การอนามัยโลก “น่าประหลาดใจและน่าผิดหวัง” ขณะที่นายไซมอน แฮร์ริส รัฐมนตรีสาธารณสุขไอร์แลนด์ กล่าวว่า การแต่งตั้ง “น่ารังเกียจและแปลกประหลาด” ส่วน นายเคนเน็ธ รอธ ซีอีโอกลุ่มฮิวแมน ไรท์ วอทช์ ทวีตข้อความสั้นๆ ว่า “เหลือเชื่อ”

ด้าน นายเทดรอส อัดฮานอม เกห์เบรเยซัส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ซึ่งได้รับตำแหน่งมาไม่นานเมื่อ ก.ค. ที่ผ่านมา เป็นคนได้ร้องขอให้ มูกาบี รับตำแหน่งทูตสันถวไมตรี เพื่อแก้ไขปัญหาโรคไม่ติดต่อเช่น หัวใจวาย เส้นโลหิตในสมองแตกเฉียบพลัน และโรคหืด ทั่วแอฟริกา เพราะซิมบับเว มีผลงานดีเด่นในการรณรงค์ต่อต้านบุหรี่และต่อต้านโรคที่ไม่ติดต่อ
ทั้งนี้ ล่าสุด ตามรายงานระบุว่า นายเทดรอส ผอ.องค์การอนามัยโลกคนใหม่ จะทบทวนการตัดสินใจตั้งประธานาธิบดีแห่งซิมบับเว เป็นทูตสันถวไมตรี หลังถูกวิจารณ์หนักจากหลายฝ่าย









