
3 ประเทศในทวีปแอฟริกาได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากไซโคลนเขตร้อน “อิดาอี” ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 150 คน สูญหายอีกหลายร้อย สลดนักศึกษาโมซัมบิก ถูกดินถล่มทับคาหอพัก
อิทธิพลของพายุไซโคลนเขตร้อน “อิดาอี” ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางพายุ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้พัดเข้าถล่ม 3 ประเทศในทวีปแอฟริกา โดยพายุได้พัดเข้าถล่ม ประเทศโมซัมบิกที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปแอฟริกาเป็นประเทศแรก แล้วเคลื่อนตัวเข้าถล่มประเทศซิมบับเว และประเทศมาลาวีตามลำดับ ส่งผลให้เกิดลมกระโชกอย่างรุนแรงและฝนตกหนัก มีน้ำท่วมฉับพลัน บ้านเรือนและสะพานหายไปกับกระแสน้ำ
มีรายงานว่า ไซโคลน “อิดาอี” ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในทั้ง 3 ประเทศพุ่งสูงกว่า 150 คน และยังมีผู้คนสูญหายไปอีกหลายร้อยคน โดยพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายเป็น “ด้านตะวันออก” ของแต่ละประเทศ

สื่อท้องถิ่นของโมซัมบิก รายงานความเสียหายว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากไซโคลน “อิดาอี” มากที่สุดคือ จังหวัดโซฟาลา โดยขณะนี้ตัวเลขผู้เสียชีวิตเฉพาะในโมซัมบิกอยู่ที่ 66 คน ขณะที่รัฐบาลของมาลาวี เผยจำนวนผู้เสียชีวิตในประเทศอยู่ที่ 31 คน ส่วนประเทศมาลาวี เสียชีวิต 56 คน
สำหรับผู้เสียชีวิตในโมซัมบิกส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านในหุบเขาแห่งหนึ่ง ซึ่งมีบ้านเรือนถูกซัดไปกับกระแสน้ำมากกว่า 100 หลัง และโรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง มีนักเรียนเสียชีวิตหลังจากดินถล่มทับหอพักของพวกเขา โดยมีนักเรียนติดอยู่ภายในราว 50 คน ก่อนที่ทหารจะเข้าไปอพยพนักเรียนราว 200 คน ออกในสถานที่ปลอดภัย
ขณะที่ ล่าสุดรายงานขององค์กรสหประชาชาติ ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมีจำนวนผู้สูญหายในประเทศซิมบับเว มากกว่า 100 คน จากตัวเลขผู้ได้รับผลกระทบจากไซโคลนครั้งนี้ราว 9,600 คน










