ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาประณามและเสนอให้แก้กฎหมายประหารชีวิต หลังเกิดเหตุกราดยิงใส่โบสถ์ชาวยิวในเมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 11 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก
วันที่ 28 ต.ค. 2561 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุมือปืนกราดยิงผู้คนภายในโบสถ์ยิว ‘ทรี ออฟ ไลฟ์’ (Tree of Life) ที่เมืองพิตส์เบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 11 ราย ขณะที่คนร้ายซึ่งทราบชื่อภายหลังว่าคือนายโรเบิร์ต โบเวอร์ส วัย 46 ปี ถูกตำรวจควบคุมตัวไว้แล้ว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเช้าวันที่ 27 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ผู้คนจำนวนมากไปร่วมประกอบพิธีทางศาสนาที่โบสถ์ทรีออฟไลฟ์ ซึ่งเป็นชุมชนชาวยิวที่ใหญ่ที่สุดในเพนซิลเวเนีย จากนั้นนายโรเบิร์ตได้ถือปืนเข้าไปในโบสถ์แล้วขังตัวเองอยู่ภายให้ห้องห้องหนึ่ง จากนั้นหน่วยฉุกเฉินก็มาถึงที่เกิดเหตุในเวลาประมาณ 10:00น. และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น
นายเวนเดลล์ ฮิสริช ผู้อำนวยการสำนักงานความปลอดภัยสาธารณะเมืองพิตส์เบิร์ก ยืนยันว่า มือปืนรายนี้ถูกตำรวจควบคุมตัวแล้ว และกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยตำรวจกำลังสืบสวนคดีนี้ในฐานะคดีอาชญากรรมจากความเกลียดชัง
ด้านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นพฤติกรรมอันชั่วร้ายของมือปืน และเตรียมเดินทางไปให้กำลังใจครอบครัวของเหยื่อ เช่นเดียวกับนายทอม วูล์ฟ ผู้ว่าการรัฐเพนซิลวาเนียและนายเจฟฟ์ ฟิงเคิลสไตน์ ประธานสมาพันธ์ชาวยิวในเมืองพิตต์สเบิร์กต่างก็แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้านกลุ่มพันธมิตรต่อต้านการหมิ่นประมาท ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรของกลุ่มชาวยิวที่เคลื่อนไหวเพื่อต่อสู้กับกลุ่มต่อต้านชาวยิวระบุในเว็บไซต์ว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นการโจมตีชุมชนชาวยิวครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ขณะที่ชาวยิวจำนวนมากได้ไปรวมตัวกันที่ย่านสเควอเริลฮิลล์เพื่อทำพิธีรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
