นักวิจัยสามารถระบุสายพันธุ์ไดโนเสาร์สำเร็จ หลังใช้เวลาศึกษา 20 ปี

นักวิจัยสามารถระบุสายพันธุ์ไดโนเสาร์สำเร็จ หลังใช้เวลาศึกษา 20 ปี

ทีมนักบรรพชีวินวิทยาค้นสามารถระบุสายพันธุ์ไดโนเสาร์กินเนื้อจากฟอสซิลที่ค้นพบเมื่อ 20 ปีที่แล้ว บริเวณเหมืองหินอ่อนในอิตาลี

วันที่ 24 ธ.ค.61 สื่อต่างประเทศรายงานว่า นายคริสเตียโน ดาล ซาสโก หัวหน้าทีมนักบรรพชีวินวิทยาจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี พร้อมลูกทีมได้ทำการวิจัยฟอสซิลไดโนเสาร์ชนิดหนึ่งที่ค้นพบตั้งแต่ปี 1996 บริเวณเหมืองหินอ่อนในแคว้นลอมบาร์เดียประเทศอิตาลี และได้เขียนรายงานการวิจัยล่าสุดลงในวารสารเพียร์เจ. (PeerJ.) ซึ่งสาเหตุที่ทีมนักวิจัยต้องใช้เวลาในการศึกษาร่วม 20 ปี เนื่องจากการแยกเอาซากฟอสซิลออกจากเนื้อหินอ่อนนั้นทำได้ยากมาก

ภาพจำลอง “ซาลตริโอเวนาเตอร์ ซานาลลาย” (Saltriovenator zanellai)

โดยในรายงานระบุว่า ซากฟอสซิลโครงนี้ เป็นของไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่ อาศัยอยู่ในช่วงต้นของยุคจูราสสิก ซึ่งไดโนเสาร์พันธุ์ดังกล่าวเคยอาศัยอยู่ทั่วตอนเหนือของอิตาลีเมื่อ 200 ล้านปีที่แล้ว ซึ่งนักวิจัยได้ตั้งชื่อว่า “ซาลตริโอเวนาเตอร์ ซานาลลาย” (Saltriovenator zanellai) ซึ่งมีความหมายว่า “นักล่าแห่งซาลตริโอ”

ในรายงานได้บรรยายโครงสร้างของซาลตริโอเวนาเตอร์ ซานาลลายไว้ว่า มันมีความยาวจากหัวถึงหางอยู่ที่ 7.5 เมตร, กะโหลกศีรษะยาว 80 เซนติเมตร, เดิน 2 เท้า, มี 3 กรงเล็บแข็งแรง, มีน้ำหนักอย่างน้อย 1,000 กิโลกรัม, มีฟันกรามแหลมคม นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่าไดโนเสาร์ตัวดังกล่าวตายตอนอายุ 24 ปี

นักบรรพชีวินวิทยาตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการรวมลักษณะของไดโนเสาร์กินเนื้อแบบดั้งเดิม โดยมือและนิ้วของมันกลับให้อาจเป็นกุญแจในการไขปริศนาเกี่ยวกับวิวัฒนาการของปีกนกในยุคใหม่ และทีมนักวิจัยยังเชื่อว่าเชื่อว่าข้อมูลเรื่องมือของ “ซาลตริโอเวนาเตอร์ ซานาลลาย” จะช่วยให้นักวิจัยเข้าใจโครงสร้างวิวัฒนาการของไดโนเสาร์จำพวก “เทอโรพอด (theropod)” หรือกลุ่มไดโนเสาร์กินเนื้อ ที่มีวิวัฒนาการสูญเสียนิ้วก้อยและนิ้วนาง จนเหลือ 3 นิ้วในยุคต่อไป

 

 

 

 

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง