ตำรวจมาเลเซียทำการตรวจค้นบ้านนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรี และสถานที่รวม 5 แห่ง หาหลักฐานเชื่อมโยงคดีทุจริตยักยอกเงินของทุน 1MDB ตั้งแต่ค่ำวันพุธที่ผ่านมา
โดยสถานที่อีก 4 แห่ง รวมถึงคอนโดมิเนียมที่มีชื่อของนายนาจิบเป็นเจ้าของ ที่ทำงาน ขณะที่ผู้อำนวยการตำรวจสอบสวนคดีอาชญากรรมระบุกับสื่อท้องถิ่นว่า ตำรวจกำลังรวบรวมค้นหาหลักฐานในการสอบสวน ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องอื้อฉาว 1MDB หรือกองทุนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติมาเลเซีย ที่นายนาจิบถูกกล่าวหาว่าโอนเงินกว่า 700 ล้านดอลลสาร์สหรัฐฯ เข้าบัญชีตัวเอง
นาจิบ ราซัค และภริยา
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (12 พ.ค. 61) นายนาจิบและภริยาถูกตำรวจสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ โดยระบุว่าทั้งคู่ “ถูกขึ้นบัญชีดำ” หลังพยายามเดินทางทางไปพักผ่อนระยะสั้นที่กรุงจาร์การตา อินโดนีเซีย
ทั้งนี้นายนาจิบเป็นผู้ก่อตั้งกองทุนดังกล่าวขึ้นเมื่อปี 2552 ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่แล้วในปี 2558 พบพิรุธว่าเงินกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หายไปและโอนไปยังประเทศอื่น โดยมีเงินจำนวนกว่า 681 ล้านดอลลาร์ ถูกกล่าวหาว่าโอนเข้าไปบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบ
มีรายงานว่าไม่มีการตรวจสอบเรื่องนี้แต่อย่างใด ขณะที่นายนาจิบยังอยู่ในอำนาจ และไม่ให้สหรัฐอเมริกาและสวิตเซอร์แลนด์เข้าถึงข้อมูลเพื่อสืบสวนเส้นทางการเงินของเขา
มหาเธร์ โมฮัมหมัด
นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด วัย 92 ปี นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของมาเลเซีย ที่เพิ่งชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมาระบุว่า ทุกคนที่ถูกตรวจสอบพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในกองทุน 1MDB จะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
“การมุ่งไปที่การทุจริตคอรัปชั่นเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากพวกเราต้องการนำเงินกลับมา ซึ่งอาจยังอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ หรือลักเซมเบิร์ก” นายมหาเธร์กล่าวบางช่วงบางตอน “เงินเป็นของมาเลเซีย และมันมาจากกองทุนพัฒนาประเทศมาเลเซีย เราจะนำเงินมาคืน”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปล่อย “อันวาร์ อิบราฮิม” ทายาทการเมืองคนใหม่ “มหาเธร์” ผู้นำมาเลเซีย
