ผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้าน นิโกลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา / AFP
เหตุประท้วงต่อต้าน ปธน.เวเนซุเอลา ทวีความรุนแรงมากขึ้น ล่าสุดเสียชีวิตเพิ่มเป็น 13 ราย ขณะที่หลายประเทศรับรองผู้นำฝ่ายค้านเป็นประธานาธิบดีเฉพาะกาล
วันนี้ (24 ม.ค. 62) สื่อต่างประเทศรายงานว่า เหตุการณ์การประท้วงเรียกร้องให้นายนิโกลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่วานนี้ (23 ม.ค.) ล่าสุด มีผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ราย หลังปะทะกับตำรวจปราบจลาจล
ตามรายงานระบุว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกยิง ซึ่งเกิดขึ้นในกรุงการากัส เมืองหลวง และในรัฐตาชีรา, บอร์เรเนส, ปอร์ตูเกซา, อามาโซนัส และโบลิบาร์ โดยตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุม ส่วนผู้ประท้วงตอบโต้ด้วยการขว้างปาก้อนหินและสิ่งของใส่ รวมทั้งเผายานพาหนะของตำรวจด้วย ขณะเดียวกัน ประชาชนที่ยังสนับสนุนประธานาธิบดีมาดูโรได้ออกมาชุมนุมให้กำลังใจเช่นกัน แต่มีจำนวนที่น้อยกว่าผู้ประท้วงต่อต้านอย่างมาก
ความรุนแรงเริ่มเปิดฉากขึ้นเมื่อนายฮวน ไกวโด ผู้นำฝ่ายค้านวัย 35 ปี ซึ่งเพิ่งได้รับเลือกเป็นประธานสมัชชาแห่งชาติ ที่มีอายุน้อยที่สุดของเวเนซุเอลา ได้สาบานตนขึ้นเป็นประธานาธิบดีเฉพาะกาลต่อหน้าผู้ประท้วงหลายแสนคนที่กำลังชุมนุมต่อต้านนายมาดูโร พร้อมประกาศว่าการประท้วงครั้งนี้จะมีไปจนกว่าเวเนซุเอลา จะได้รับการปลดปล่อย
ฮวน ไกวโด ประธานสมัชชาแห่งชาติเวเนซุเอลา / AFP
ทั้งนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาประกาศรับรองนายไกวโด เป็นประธานาธิบดีเฉพาะกาลของเวเนซูเอลาทันที นอกจากนี้ยังมีองค์การรัฐอเมริกา, แคนาดา, สหภาพยุโรป, บราซิล, โคลอมเบีย, อาร์เจนตินา, เอกวาดอร์ และเปรู ให้การรับรองตามมา ขณะที่เม็กซิโก, คิวบา และโบลิเวีย ยังให้การสนับสนุนประธานาธิบดีมาดูโรอยู่
อย่างไรก็ตาม นายมาดูโร ได้ประกาศตัดสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ทันทีเช่นกัน พร้อมขับไล่นักการทูตสหรัฐอเมริกาออกนอกประเทศภายในวันพรุ่งนี้ (25 ม.ค.) แต่ยังคงไม่มีปฏิกิริยาใดๆ กับเหตุการประท้วงต่อต้านตัวเขา มีเพียงรัฐมนตรีกลาโหมเวเนซุเอลา ออกมาประณามการกระทำของประธานสมัชชาแห่งชาติ
