
กองทัพฝ่ายรัฐบาลของนาย มาดูโร ออกมาขับไล่โดยใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มผู้ประท้วง และคาราวานความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากต่างชาติ ที่บริเวณชายแดนของประเทศเวเนซุเอลา ส่งผลให้มีผู้ประท้วงเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บหลายร้อยราย
วันที่ 25 ก.พ. 62 สื่อต่างประเทศรายงานว่า สถานการณ์การประท้วงในเวเนซุเอลาที่เริ่มมีขึ้นเมื่อช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา (23 ก.พ.) ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง มีการปะทะกันระหว่างประชาชนเวเนซุเอลากับและกองกำลังป้องกันประเทศเวเนซุเอลาบริเวณชายแดนติดกับประเทศบราซิลและโคลอมเบียอย่างรุนแรง โดยทหารมีการยิงกระสุนยางและขว้างแก๊สน้ำตาเข้าคุมฝูงชน

การประท้วงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร (ผู้อยู่ระหว่างถูกยึดอำนาจจากฝ่ายค้าน) สั่งปิดชายแดนและห้ามขนย้ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่นานาชาติ ที่ส่งเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ตามคำร้องขอของ นายฮวน ไกวโด (ผู้นำพรรคฝ่ายค้านเวเนซุเอลา) ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ โดยอ้างว่าประเทศไม่มีปัญหาด้านมนุษยธรรม ทำให้ประชาชนที่ขาดแคลนทั้งอาหารและยา เกิดความไม่พอใจจึงรวมตัวกันประท้วงและเกิดเหตุปะทะกับทหารกองกำลังป้องกันชาติที่ภักดีต่อฝ่ายประธานาธิบดี มาดูโร
เหตุดังกล่าวทำให้มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างไม่เป็นทางการ 3 ราย และมีผู้บาดเจ็บถึง 285 คน ขณะเดียวกันมีทหารกองกำลังป้องกันชาติเวเนซุเอลาแปรภักตร์ขอลี้ภัยในโคลอมเบียถึง 60 นาย เพราะไม่อยากขัดขวางรถขนความช่วยเหลือเข้าเวเนซุเอลาตามคำสั่งของ ประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร ขณะที่ขบวนรถบรรทุกขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่วิ่งผ่านเขตแดนมาได้ ก็ถูกเผาทำลายทิ้งไปหลายคัน

ทั้งนี้เวเนซุเอลา ประชาชนเกือบ 30 ล้านคน กำลังเผชิญภาวะขาดอาหารและเจ็บป่วย หลังจากที่นายมาดูโรเข้ามาบริหารประเทศ จนทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจของประเทศล้มเหลว ล่าสุดนายมาดูโรได้ตัดสินใจประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับโคลอมเบีย และให้เวลาเจ้าหน้าที่ทูตโคลอมเบีย 24 ชั่วโมงเพื่อเดินทางออกจากเวเนซุเอลาแล้ว และยังได้ปฏิเสธความช่วยเหลือจากต่างชาติด้วย










