
ประเด็นคือ- ผู้ว่าฯ ตราด ลงพื้นที่ชายแดนท่าเส้น ดูความพร้อมหลังเปิดด่านเพิ่มจาก 1 วัน เป็น 3 วัน พบชาวกัมพูชาผ่านด่านคึกคัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 พ.ย. 60) นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมส่วนราชการ ประกอบด้วย นายอำเภอเมืองตราด, นายอำเภอคลองใหญ่ พร้อมนายด่านศุลกากรคลองใหญ่ และตรวจคนเข้าเมืองคลองใหญ่ เดินทางเข้าตรวจพื้นที่ชายแดนบ้านท่าเส้น ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด ที่ติดกับชายแดนบ้านทมอดา อ.เวียงเวง จ.โพธิสัต มี น.อ.อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด พร้อมนายประดิษฐ์ คุ้มชนม์ นายก อบต.แหลมกลัด ร่วมเดินทางไปด้วย

การเดินทางใช้เส้นทางจากบ้านท่าเส้น ผ่านกองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 537 บ้านท่าเส้น เข้าไปยังจุดชายแดนที่ติดกับบ้านทมอดา และเข้าไปชมพื้นที่ก่อสร้างโรงแรมและกาสิโน ของออกญาตรีเพียบ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และพบปะกับ จนท.ฝ่ายกัมพูชา แล้วเดินทางกลับมารับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ที่กองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 513
โดย ร.อ..ประเสริฐ ภูธนะกูล ผบ.ร้อย ได้รายงานสถานการณ์พื้นที่บริเวณชายแดนทั้ง 2 พื้นที่ ซึ่งมีทหารทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาดูแลอยู่ และบริเวณบ้านท่าเส้นเป็นจุดผ่านแพนชั่วคราว ที่มีประชาชนชาวบ้านทมอดา จ.โพธิสัต เดินทางเข้าออกเพื่อซื้อสินค้าและนำสินค้ามาขายที่บริเวณตลาดชายแดนวัดท่าเส้น

โดยที่ผ่านมา เปิดให้เข้าเฉพาะวันเสาร์ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 60 เปิดให้เข้าในวันจันทร์ วันพุธ และวันเสาร์ รวม 3 วัน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดตราด

แม้จะมีประชาชนชาวกัมพูชาเดินทางมาช่วงวันจันทร์และพุธไม่มากนัก แต่ในวันเสาร์จะมีมากขึ้น ประมาณวันละ 300-400 คน โดยสินค้าที่ชาวกัมพูชาต้องการคือสินค้าอุปโภค บริโภคเป็นหลัก และชาวกัมพูชาจะนำสินค้าทางการเกษตรมาขายให้กับชาวไทยใน จ.ตราดด้วย

หลังจากนั้นนายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ได้สอบถามถึงเรื่องการดำเนินการก่อสร้างถนนและการค้าขาย ซึ่งการเดินทางยังมีปัญหาในเรื่องของเส้นทางที่ไม่สะดวก ทางจังหวัดจะให้ส่วนราชการเช่น ทางหลวงชนบทเข้ามาดำเนินการก่อสร้างและปรับปรุง จึงต้องขอทางฝ่ายทหารในการอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ ส่วนในช่วงที่ติดกับชายแดนยังต้องรอมติของสภาความมั่นคงในการดำเนินการต่อไป

หลังจากนั้น นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงภาพรวมนโยบายด้านชายแดน จ.ตราดว่า ทางจังหวัดต้องการที่จะผลักดันและส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ โดยเฉพาะการยกระดับเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรในอนาคต ที่ภาคเอกชนต้องการที่จะส่งเสริมให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ซึ่งทางจังหวัดจะต้องหารือกับฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะสภาความมั่นคงแห่งชาติว่าจะมีแนวนโยบายอย่างไร แต่ในขณะนี้ทางจังหวัดก็ส่งเสริมให้มีการเปิดการเข้าออกเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะที่บ้านท่าเส้น ที่เปิดเพิ่มขึ้นจาก 1 วันเป็น 3 วัน จึงน่าจะทำให้การค้าขายในพื้นที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ส่วนเรื่องถนนจะต้องดำเนินการต่อไป

และในเวลา 10.00 น.ที่ป้อมยามบริเวณหน้ากองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 537 มีชาวกัมพูชาขับขี่ จยย.และรถยนต์ ดัดแปลงเป็นที่บรรทุกสิ่งของทั้งของข้างเดินทางมายื่นเอกสารการเข้าไปยังตลาดชายแดนจำนวนนับร้อยคน ซึ่งเป็นวันที่ 2 ในการเข้ามาหลังเพิ่มวันเข้าออก เพื่อมาซื้อสินค้าในตลาดชายแดนบ้านท่าเส้น ซึ่งจะมีการปิดในเวลา 16.00 น.ของทุกวัน










