
ทางการรัสเซียนำชาวซีเรียเป็นพยานยืนยัน ที่สำนักงานใหญ่องค์การห้ามอาวุธเคมี
ประเด็นคือ – ทางการรัสเซียนำตัวชาวซีเรียมายืนยันกับองค์การห้ามอาวุธเคมีถึงสำนักงานใหญ่ เพื่อเป็นพยานว่ามีการถ่ายทำวิดีโอจัดฉาก กรณีโจมตีด้วยอาวุธเคมีในเมืองดูมา
จากกรณีเมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา รัฐบาลซีเรีย นำโดยนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ได้สั่งปฏิบัติการโจมตีทางอากาศบริเวณฐานที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มกบฏในเมืองดูมา เขตกูตาตะวันออก ส่งผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมากต้องบาดเจ็บและชีวิต

ศูนย์ศึกษาและวิจัยทางวิทยาศาสตร์ (เอสเอสอาร์ซี) ในเขตบาเซะห์ ทางเหนือของกรุงดามัสกัส
โลกตะวันตกอย่างสหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตรไม่พอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเชื่อว่ารัฐบาลซีเรียได้ใช้อาวุธเคมีสังหารพลเรือน ทำให้เกิดปฏิบัติการทางทหารตอบโต้จากสหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศส ในวันที่ 14 เม.ย. 61 ทำให้หน่วยงานของรัฐ ที่ชาติมหาอำนาจอ้างว่าเป็นสถานที่เก็บและผลิตอาวุธเคมี ถูกโจมตีเหลือแต่ซากปรักหักพัง
อย่างไรแล้ว นายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย หลังถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังของเหตุสลด เจ้าตัวได้ปฏิเสธและบอกว่าทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกหลอกลวง ซึ่งนั่นหมายรวมชาติพันธมิตรอย่างรัสเซียด้วย

สำนักงานใหญ่องค์การห้ามอาวุธเคมี (OPCW) ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์
และไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา องค์การห้ามอาวุธเคมี หรือ OPCW ซึ่งได้รับเชิญจากรัฐบาลซีเรีย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุโจมตีพลเรือนด้วยอาวุธเคมี ได้เข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุในเมืองดูมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่จากทางการรัสเซียอำนวยความสะดวก แต่ผลการตรวจสอบยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากต้องส่งหลักฐานต่างๆ ที่เก็บมาได้นั้น ไปยังห้องปฏิบัติการเครือข่ายของ OPCW ในเนเธอร์แลนด์เสียก่อน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา ทางการรัสเซียได้พาตัวชาวซีเรียไปยังสำนักงานใหญ่ขององค์การห้ามอาวุธเคมี ในกรุงเฮก เพื่อเป็นพยานยืนยันว่ามีการถ่ายทำวิดีโอจัดฉาก กรณีเหตุโจมตีด้วยอาวุธเคมีในเมืองดูมา ขณะเดียวกันทางอังกฤษและฝรั่งเศส ชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่ได้ร่วมสั่งสอนซีเรียด้วยขีปนาวุธหลายร้อยลูก ก็ได้ออกมาประณามการกระทำของรัสเซียว่า เป็นการหลอกลวงที่น่ารังเกลียด
ทั้งนี้ คลิปวิดีโอที่ทางรัสเซียบอกว่าเป็นการถ่ายทำที่ถูกจัดฉากขึ้น เป็นคลิปที่ปรากฏเด็กชายชาวซีเรียคนหนึ่งซึ่งถูกระบุว่า เป็นเหยื่อการโจมตีด้วยอาวุธเคมีจากรัฐบาลนายอัสซาด









