
นักภูเขาไฟวิทยา (volcanologist) คาดการณ์ว่าเหตุการณ์สึนามิถล่มประเทศอินโดนีเซียเมื่อคืนนี้ น่าจะเป็นผลสืบเนื่องจากการปะทุของภูเขาไฟกรากาตัว (Krakatau) ซึ่งอยู่ระหว่างเกาะสุมาตราและเกาะชวา โดยการปะทุของภูเขาไฟเมื่อวันศุกร์ น่าจะส่งผลให้เกิดแผ่นดินไสลด์ใต้ท้องทะเล และทำให้เกิดสึนามิตามมาในที่สุด อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่การปะทุที่รุนแรงที่สุดของภูเขาไฟลูกนี้ เพราะในในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ภูเขาไฟลูกนี้เคยปะทุอย่างรุนแรงมาแล้วครั้งหนึ่ง และทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30,000 คน
ภูเขาไฟกรากาตัว (Krakatau) เป็นส่วนหนึ่งของเกาะกรากาตัว ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลระหว่างเกาะสุมาตราและเกาะชวา โดยอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะสุมาตรา และทางตะวันตกของเกาะชวา

เกาะภูเขาไฟกรากาตัวนี้เพิ่งเกิดขึ้นมาใหม่ในปี 1927 หลังจากที่การระเบิดครั้งใหญ่ในปี 1883 ได้ทำลายพื้นที่เกาะเดิมลงไปกว่า 2 ใน 3
สำหรับการระเบิดครั้งใหญ่ของภูเขาไฟกรากาตัวในปี 1883 นั้น ได้ทำให้เกิดคลื่นสึมานิสูงกว่า 41 เมตร คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 36,000 คน อีกทั้งยังทำให้หมู่บ้านและเมือง 165 แห่งถูกทำลาย
ความรุนแรงของการระเบิดในปี 1883 มีความรุนแรงกว่า 200 เมกะตัน หรือเทียบเท่ากับความรุนแรงของระเบิดปรมาณูที่ถูกปล่อยลงที่เมืองฮิโรชิมา ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึง 13,000 ลูก ความรุนแรงของการระเบิดครั้งนั้นทำให้เถ้าถ่านฟุ้งไปทั่วและทำให้อุณหภูมิทั่วโลกในปีนั้นลดลงเฉลี่ย 1 องศาเซลเซียส

สำหรับการระเบิดในครั้งล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยกินเวลาทั้งสิ้น 2 นาที 12 วินาที ส่งผลให้เถ้าภูเขาไฟพุ่งขึ้นไปในอากาศสูงกว่า 400 เมตร ถือเป็นเหตุการณ์การปะทุที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายเดือนของภูเขาไฟลูกนี้ หลังจากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเกิดการเคลื่อนไหวที่สามารถตรวจจับได้จากภูเขาไฟแห่งนี้หลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าก่อนเกิดเหตุ ภูเขาไฟกรากาตัวอยู่ในภาวะสงบ ซึ่งนักภูเขาไฟวิทยา (volcanologist) คาดว่าการปะทุเมื่อวันศุกร์น่าจะทำให้เกิดดินสไลด์ขนาดใหญ่ใต้ทะเล และทำให้เกิดสึนามิตามมาในที่สุด ทั้งนี้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่ามีคลื่นทั้งสิ้น 2 ระลอก โดยคลื่นระลอกที่สองรุนแรงกว่าคลื่นลูกแรกมาก









