
ดอกซากุระในหลายพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่นบานเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งตามธรรมชาติ มันจะผลิบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกปี คือประมาณช่วงเดือน (มีนา- เมษา) คาดมาจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นเจบี
จากการเปิดเผยของสำนักงานด้านสภาพอากาศในญี่ปุ่นระบุว่า มีประชาชนกว่า 350 คนทั่วประเทศแจ้งเข้ามาว่า พบต้นซากุระที่ผลิดอกแล้วในหลายพื้นที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้านผู้เชี่ยวชาญของญี่ปุ่นให้ความเห็นว่า การบานของดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ น่าจะเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่ผิดปกติที่ผ่านมา โดยเฉพาะจากพายุไต้ฝุ่น “เจบี” ที่เพิ่งพัดเข้าถล่มเกาะไปเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ด้วยสภาพอากาศที่ผิดปกติ ส่วนหนึ่งมาจากพายุหลายลูกพัดผ่านมาสู่เกาะญี่ปุ่นนั้น ทำให้ต้นซากุระปลิดใบทิ้ง (ซึ่งโดยปกติใบของต้นซากุระจะปล่อยสารเคมีชนิดหนึ่งออกมาเพื่อยับยั้งการบานของดอกซากุระก่อนถึงฤดูใบไม้ผลิ) ขณะที่ไต้ฝุนพัดผ่านเข้ามาก็หอบเอา “เกลือทะเล” ติดมาด้วย และไปเกาะอยู่ตามใบไม้ ทำให้ใบไม้แห้งตายและร่วงจากต้น ส่งผลให้กรดแอบไซซิก (abscisic acid) ในใบไม้ ซึ่งเป็นตัวยับยั้งไม่ให้ดอกซากุระบานก่อนเวลา ไปควบคุมการออกดอกของต้นไม่ทั่วถึง ก็เลยทำให้ดอกไม้บานก่อนเวลา หรือเรียกว่า “อาการหลงฤดู”
ปรกติซากุระจะจำศีลตั้งแต่ช่วงต้นฤดูหนาว (ระหว่างเดือน พ.ย. – ธ.ค.) และหลังจากเดือนมกราคมไปแล้ว ต้นจะเตรียมสร้างดอกตูมในระหว่างเดือนก.พ. – มี.ค.และ ไปบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (คือช่วงเดือน มีนา- เมษา) ของทุกปี ซึ่งปรากฎการณ์ในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตเหมือนกัน แต่ก็จะไม่มีผลกับดอกซากุระที่จะบานอยุ่ตามปกติในปีหน้า









