
บังกลาเทศและเมียนมายอมรับข้อตกลง โดยจะส่งตัวผู้อพยพชาวโรฮีนจากลับสู่เมียนมาให้แล้วเสร็จ ภายใน 2 ปี
บีบีซีรายงานว่า ภายหลังการประชุมระหว่างบังกลาเทศและเมียนมาที่กรุงเนปิดอว์ช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา มีการเปิดเผยว่า ทั้งสองประเทศเห็นชอบข้อตกลงจะส่งตัวผู้อพยพชาวโรฮีนจาที่หนีความรุนแรงเข้ายังบังกลาเทศกลับสู่เมียนมา ให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี นับตั้งแต่เริ่มดำเนินการส่งตัวกลับ โดยหวังว่าเมียนมาจะตกลงรับชาวโรฮีนจา 1,500 คนต่อสัปดาห์

ในแถลงการณ์ไม่ได้ว่าระบุว่าจะเริ่มดำเนินการเมื่อใด หลังจากนี้คาดว่าจะดำเนินเรื่องเอกสาร แบบฟอร์มที่จำเป็นให้ชาวโรฮีนจากรอก เช่น ชื่อ สมาชิกในครอบครัวที่อยู่ในเมียนมา วันเดือนปีเกิด ข้อความระบุว่าขอกลับเองด้วยความสมัครใจ (มีบางส่วนไม่ต้องการขอกลับประเทศ)
มีรายงานว่า ทางการเมียนมาได้สร้างที่พักชั่วคราวเพื่อรองรับผู้อพยพที่เดินทางกลับ ก่อนที่จะสร้างที่พักถาวรให้
จากตัวเลขระบุว่าจะมีชาวโรฮีนจาถูกส่งตัวกลับเมียนมาประมาณ 156,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่ห่างไกลจากผู้อพยพทั้งหมดกว่า 650,000 คนในบังกลาเทศ

ทั้งนี้มีชาวโรฮีนจากว่า 650,000 คน อพยพเข้าสู่บังกลาเทศ เพื่อหนีความรุนแรงในรัฐยะไข่ นับตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2560 จากการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธโรฮีนจาของกองทัพเมียนมา ทำให้ชาวโรฮีนจาผู้บริสุทธิ์บางส่วนเสียชีวิตระหว่างการอพยพ การฆาตกรรม การลอบวางเพลิง รวมถึงผู้อพยพบางรายถูกข่มขืน
เกิดเสียงประณามจากนานาชาติจากการกระทำของทางการเมียนมา รวมถึง นางออง ซาน ซูจี จนถูกหลายหน่วยงานที่เคยมอบรางวัลด้านสันติภาพ ยึดรางวัลดังกล่าวคืน

องค์การแพทย์ไร้พรมแดน (Medecins Sans Frontieres: MSF) เผยผลสำรวจ เดือนธันวาคม 2560 พบมีชาวโรฮีนจาอย่างน้อย 6,700 คน ในจำนวนนี้มีเด็กกว่า 730 คน ที่อายุต่ำกว่า 5 ปี ถูกสังหารตั้งแต่ช่วงเดือนแรกของวิกฤตความรุนแรงในรัฐยะไข่
ตัวเลขจำนวนนี้มาจากการลงพื้นที่สำรวจพบปะพูดคุยข้อมูลจากครอบครัวชาวโรฮีนจาที่ค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ จำนวน 2,434 ครัวเรือน ในระยะเวลา 1 เดือน นอกจากนี้ยังพบข้อมูลใหม่ว่า การเสียชีวิตกว่าร้อยละ 69 มาจากแผลการถูกสังหารด้วยกระสุนปืน มีร้อยละ 9 เสียชีวิตจากการถูกเผา ขณะที่ร้อยละ 5 เสียชีวิตจากการใช้ความรุนแรง มีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ เสียชีวิตเกือบร้อยละ 60









