เดนมาร์กผ่านกฎหมาย ‘ห้ามสวมผ้าคลุมหน้า’ ฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำและปรับ

เดนมาร์กผ่านกฎหมาย ‘ห้ามสวมผ้าคลุมหน้า’ ฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำและปรับ

สตรีสวมนิกอบในกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงเดนมาร์ก / AFP

เดนมาร์กกลายเป็นประเทศล่าสุดในยุโรป ที่ห้ามสวมผ้าคลุมหน้า รวมถึงผ้าคลุมตามหลักศาสนาอิสลาม อย่างนิกอบ (niqab) หรือบรุกา (burqa) ด้านนักสิทธิมนุษยชนชี้ เป็นการกระทำที่ทั้งไม่สมควรและไม่จำเป็น มีผลบังคับใช้ 1 ส.ค. 61 นี้

วันนี้ (31 พ.ค. 61) สมาชิกสภานิติบัญญัติของเดนมาร์กลงคะแนน 75 ต่อ 30 เสียง งดออกเสียง 74 เสียง เห็นชอบกฎหมายของรัฐบาลที่เสนอห้ามสวมผ้าคลุมใบหน้า ซึ่งทางรัฐบาลกล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้เพื่อรักษาความปลอดภัยของประชาชน ไม่ได้มุ่งไปยังศาสนาใด รวมถึงไม่ได้ห้ามใส่ผ้าคลุมศีรษะของสตรี ผ้าโพกศีรษะแบบชาวยิวแต่อย่างใด

รัฐมนตรียุติธรรมเดนมาร์ก ระบุว่า กฎหมายนี้จะขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะใช้สามัญสำนึกผู้ที่สวมผ้าคลุมหน้าว่าฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ โดยจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ส.ค. 2561 นี้

หากฝ่าผืนมีโทษปรับ 1,000 ปอนด์ หรืออาจถูกปรับถึง 10,000 ปอนด์ หากพบว่าทำผิดซ้ำ และโทษจำคุกสูงสุด 6 เดือน แต่ประชาชนยังสามารถคลุมหน้าได้หากมีเหตุจำเป็น เช่น สภาพอากาศหนาวเย็น หรือการสวมหมวกกันน็อกตามกฎจราจร ทั้งนี้ ออสเตรีย ฝรั่งเศส และเบลเยียมก็มีกฎหมายนี้เช่นกัน

ขณะที่ ผอ.แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนลประจำภูมิภาคยุโรป กล่าวว่า ผู้หญิงทุกคนควรมีอิสระที่จะแต่งกายตามที่ตนเองพอใจ สามารถสวมเสื้อผ้าที่แสดงออกถึงความเป็นตัวเองหรือตามความเชื่อช กฎหมายห้ามสวมผ้าคลุมหน้านี้จะมีผลกระทบอย่างยิ่งกับผู้หญิงชาวมุสลิมในเดนมาร์กที่ใส่นิกอบหรือบรุกา

“แม้ว่ากฎหมายดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาความปลอดภัยของประชาชน แต่มันเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นและไม่สมควรทำ ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและในด้านศาสนา” ผอ.แอมเนสตี้ฯ กล่าว

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตำรวจออสเตรียบังคับหญิงมุสลิมถอดผ้าคลุมใบหน้าออก

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง