
รัฐบาลนิวซีแลนด์ อนุมัติมาตรการฆ่าวัว 150,000 ตัว เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส “ไมโครพลาสมา โบวิส”
วันที่ 28 พ.ค. 61 สื่อต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์มีคำสั่งให้ฆ่าวัวจำนวน 150,000 ตัว เพื่อยุติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส “ไมโครพลาสมา โบวิส” (Mycoplasma bovis) อันเป็นสาเหตุทำให้วัวเกิดอาการเต้านมอักเสบ ข้ออักเสบ และปอดบวม ทางการกล่าวว่า ภาคการเกษตรและปศุสัตว์ถือเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศนิวซีแลนด์ ดังนั้นการป้องกันการแพร่ระเบิดของเชื้อไวรัสดังโดยไว จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคการเกษตรและปศุสัตว์ของนิวซีแลนด์ได้ดังเดิม

โดยนิวซีแลนด์ที่วัวประมาณ 10 ล้านตัว นับเป็น 2 เท่าของประชากรของประเทศ ประมาณ 2 ใน 3 เป็นโคนมและโคเนื้อที่เหลือ อีกทั้งนิวซีแลนด์ยังเป็นประเทศที่ส่งออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนมอันดับหนึ่งของโลก โดยมีตลาดใหญ่คือประเทศจีน
สำหรับ “ไวรัสไมโครพลาสมา โบวิส” (Mycoplasma bovis) เป็นต้นเหตุหลักของโรควัณโรคในโค-กระบือ ซึ่งเชื้อไวรัสชนิดนี้สามารถติดได้ในสัตว์หลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโคและกระบือ “วัณโรคในวัวสามารถติดต่อสู่คนได้” ซึ่งอาจทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และเป็นภัยคุกคามสุขภาพมนุษย์อย่างมาก
แต่ทางการนิวซีแลนด์ระบุว่า จากการทดสอบทางการแพทย์และทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า เชื้อไมโครพลาสมาโบวิสไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ “น้ำนมและเนื้อวัว” ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไม่ให้แพร่กระจายไปมากกว่านี้

ตามรายงานระบุว่า มีวัวจำนวน 24,000 ตัว จะถูกส่งเข้าโรงฆ่าสัตว์ในเดือนที่ผ่านมา และคาดการณ์ว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี ที่จะกำจัดวัวอีกกว่า 128,000 ตัว และใช้งบประมาณจำนวนถึง 616 ล้านดอลลาร์หรือราว 2 หมื่นล้านบาท
ด้านนางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์กล่าวว่า “ในอนาคตเราไม่ทราบว่ามันจะส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อเศรษฐกิจของประเทศนิวซีแลนด์นานแค่ไหน ดังนั้นจึงโอกาสที่ดีที่เราจะกำจัดโรคนี้ได้ ซึ่งเราจะดำเนินการอย่างแน่นอน”

นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์
ที่มา New Zealand to Kill 150,000 Cows to End Bacterial Disease









