
เฟซบุ๊กเชื่อว่ามีผู้ใช้สูงถึง 87 ล้านบัญชี ซึ่งส่วนมากอยู่ในสหรัฐฯ ถูกล้วงข้อมูลส่วนตัวจาก ‘เคมบริดจ์ อานาไลติกา’ เพื่อนำไปใช้วางแผนหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์
เฟซบุ๊กออกมากล่าวว่าอาจมีจำนวนผู้ถูกล้วงข้อมูลส่วนตัวมากสุดกว่า 87 ล้านบัญชี โดย ‘เคมบริดจ์ อานาไลติกา’ บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลที่วางแผนการหาเสียงเลือกตั้งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อปี 2559 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ระบุว่ามี 50 ล้านบัญชีที่ถูกล้วงข้อมูล โดยกว่าร้อยละ 97 อยู่ในสหรัฐฯ และประมาณ 16 ล้านบัญชีในหลายประเทศ และมีผู้ใช้ในสหราชอาณาจักรได้รับผลกระทบกว่า 1.1 ล้านคน
ปัญหาผู้ใช้ถูกล้วงข้อมูลเกิดจากการกดเข้าไปทำแบบสอบถามเกี่ยวกับบุคลิกภาพของ ดร. อเลกซานดร์ โคแกน ทำให้มีข้อมูลผู้ใช้เก็บไว้ ก่อนที่จะเอาข้อมูลดังกล่าวให้กับเคมบริดจ์ อานาไลติกา ซึ่งเชื่อกันว่าบริษัทได้นำข้อมูลไปวิเคราะห์หาเสียงจนทำให้นายทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดี
ในประกาศของเฟซบุ๊กยังเพิ่มป้องกันแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับเฟซบุ๊กไม่ให้เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ได้
ด้านนายมาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ซีอีโอเฟซบุ๊ก กล่าวยอมรับผิดว่ามีการรั่วไหลข้อมูลดังกล่าวจริง เชื่อว่าคนจะยอมรับได้เมื่อเกิดความผิดพลาด เรียนรู้ และเดินหน้าต่อไป ทั้งนี้นายมาร์คจะต้องชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการด้านกฎหมายและการค้าของวุฒิสภาสหรัฐฯ ในวันที่ 10 เม.ย. 2561 และพบกับคณะกรรมาธิการพาณิชย์ของสภาสหรัฐฯ ในวันที่ 11 เม.ย. 2561
ขณะที่เคมบริดจ์ อานาไลติกา ออกมาปฏิเสธการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้กว่า 87 ล้านบัญชี แต่อ้างว่าได้รับข้อมูลไม่เกิน 30 ล้านบัญชีจาก ดร.อเลกซานดร์ และไม่มีข้อมูลใดๆ ที่ได้นำไปใช้ประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้งของประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อปี 2559 ซึ่งหลังจากเฟซบุ๊กได้แจ้งเรื่องก็ได้ลบข้อมูลทิ้งทั้งหมดทันที









