
แอปเปิล บริษัทด้านไอทีชั้นแนวหน้าของสหรัฐฯ เผชิญกับวิกฤตหุ้นตกหนัก จนหลุดจากการเป็นบริษัทที่มีมูลค่าทางการตลาดเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ หลังผลประกอบการในไตรมาสจะได้กำไร แต่ยอดขายไอโฟนต่ำกว่าที่คาดการณ์
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 61 สื่อต่างประเทศรายงานว่า ราคาหุ้นของแอปเปิลตกลงมาถึง 7.3% อยู่ที่หุ้นละ 206.07 ดอลลาร์ ทำให้มูลค่าทางการตลาดของบริษัทร่วงจาก 1 ล้านล้านดอลลาร์ (ซึ่งแอปเปิลทำได้เมื่อเดือนสิงหาคม) มาอยู่ที่ประมาณ 995,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (1 พ.ย. 61) ทางบริษัทได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสว่า สามารถกำไรสุทธิสูงขึ้นถึง 32% มาอยู่ที่ 14,130 ดอลลาร์ จากรายรับซึ่งทำได้สูงขึ้น 20% อยู่ที่ 63,900 ล้านดอลลาร์ ด้วยความช่วยเหลือจากยอดขายที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ของคอนเทนต์ดิจิตอลและบริการต่างๆ ให้แก่ผู้ใช้งาน ตลอดจนยอดขายของพวกเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ

ทิม คุก ประธานบริหารของแอปเปิล
แต่ทว่าบรรดานักลงทุนรู้สึกผิดหวังที่แอปเปิลทำยอดขายไม่ได้ตามที่คาดหมายกัน โดยยอดขายของไอโฟนทำได้เพียง 46.9 ล้านเครื่อง ด้านนายริชชาร์ด วิน นักวิเคราะห์ชื่อดังกล่าวว่า “แอปเปิลจะเผชิญกับความยากลำบากในการประคับประคองมูลค่าราคาตลาดของบริษัท ที่พุ่งขึ้นแรงในระยะใกล้ๆ นี้ และถ้าหากตลาดมองเห็นอย่างชัดเจนว่ายอดส่งสินค้าตกต่ำลงมา” นอกจากนี้แอปเปิลซึ่งเป็นบริษัทที่มีฐานการผลิตชิ้นส่วนจำนวนมากอยู่ที่จีน ยังต้องเฝ้าจับตามองตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ทั้งนี้นายทิม คุก ประธานบริหารของแอปเปิลยังเชื่อว่าทั้งสองประเทศจะสามารถแก้ไขปัญหาได้
ที่มา Apple falls below $1tn despite revenue and profit rise









