
นักโบราณคดีอียิปต์ ขุดพบรูปปั้นสฟิงซ์แกะสลักจากหินทรายอายุราว 2,000 ปี ขณะกำลังบูรณะซ่อมแซมวิหารโบราณแห่งหนึ่ง
เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 61 สื่อต่างประเทศรายงานว่า นักโบราณคดีอียิปต์ ขุดพบรูปปั้นสฟิงซ์แกะสลักจากหินทรายโดยบังเอิญอายุประมาณ 2,000 ปี ระหว่างการทำการบูรณะ ขุดเจาะระบายน้ำใต้ดินภายในวิหารกอม ออมโบ ด้านเจ้าหน้าที่จากสภาโบราณวัตถุของอียิปต์โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กระบุว่า รูปปั้นสฟิงซ์ดังกล่าวถูกค้นพบบริเวณทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของวิหารกอม ออมโบ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองอัสวาน

วิหารกอม ออมโบ
ด้านนายมอสตาฟา วาซิรี เลขาธิการสภาโบราณวัตถุของอียิปต์ คาดการณ์ว่า สฟิงซ์ที่พบครั้งนี้อาจอยู่ในยุคของราชวงศ์ปโตเลมี ช่วง 300 ปี – 30 ปี ก่อนคริสตกาล ซึ่งนายมอสตาฟามองว่าวิหารกอม ออมโบ อาจมีความเกี่ยวข้องกับอาคารหินทรายโบราณที่สร้างสมัยฟาโรห์ปโตเลมีที่ 5 ซึ่งถูกขุดสำรวจไปเมื่อสองเดือนก่อน ทั้งนี้ในเขตเมืองอัสวานและพื้นที่ใกล้เคียง ถือเป็นพื้นที่ที่นักสำรวจขุดค้นทางโบราณคดีเป็นจำนวนมาก เช่นการขุดค้นพบโลงศพหินทรายพร้อมซากมนุษย์มัมมี่ และโลงศพที่มีเครื่องหมายอักษรอียิปต์โบราณอยู่ในบริเวณริมฝั่งแม่น้ำไนล์

ภาพจิตกรรมในวิหารกอม ออมโบ
สฟิงซ์ถือเป็นสัตว์ในตำนานโบราณที่มีอยู่ในหลายอารยธรรม เช่น กรีก, อียิปต์, เปอร์เซีย, อัสซีเรีย และฟีนีเซีย ซึ่งลักษณะโดยทั่วไปของสฟิงซ์ในอารยธรรมต่างๆ มีความคล้ายคลึงกัน คือการผสมผสานระหว่างร่างกายที่เป็นสิงโต และศีรษธเป็นมนุษย์ นอกเหนือจากนี้สฟิงซ์ในแต่ละอารยธรรมยังมีลักษณะบางประการที่แตกต่างกันออกไปเช่น สฟิงซ์ของกรีกจะมีปีก และมีใบหน้าเป็นผู้หญิง และสฟิงซ์ของอารยธรรมในตะวันออกกลางจะมีทั้งเพศหญิงและเพศชาย อีกทั้งสฟิงซ์บางตัวยังมีศีรษะเป็นแกะ กับเหยี่ยว ตามแต่ความเชื่อ โดยสฟิงซ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือมหาสฟิงซ์ในหมู่ปิรามิดแห่งกิซ่า ซึ่งเป็นสฟิงซ์แกะสลักด้วยหินขนาดใหญ่ที่สุด ในประเทศอียิปต์

สฟิงซ์ทรงกรีก









