พายุเลสลีถล่มโปรตุเกส เสียชีวิตแล้ว 10 บ้านเรือน 3 แสนหลังไร้ไฟฟ้า ขณะที่น้ำท่วมฝรั่งเศส สังเวยแล้ว 13 แม่น้ำสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบ 100 ปี
หลังจากพายุเฮอร์ริเคนเลสลี พัดถล่มกรุงลิสบอน เมืองหลวงของโปรตุเกส เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา (13 ต.ค.) ด้วยกำลังลมสูงสุดราว 176 กม./ชม. ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และเกิดน้ำท่วมฉับพลัน เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 27 คน
นอกจากนี้ พายุลูกดังกล่าวยังทำให้บ้านเรือนราว 300,000 หลัง ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ต้นไม้นับพันล้มขวางบนถนนหลวง จนต้องปิดการจราจรชั่วคราว เพื่อให้เจ้าหน้าที่เร่งเคลื่อนย้าย
ภาพจากเว็บไซต์ BBC
สนามบิน มีการเปิดให้บริการตามปกติ แต่เที่ยวบินจำนวนนับร้อยต้องถูกยกเลิก จนกว่าสภาพอากาศจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ด้านสำนักอุตุนิยมวิทยาของสเปน ระบุว่า เฮอร์ริเคนเลสลี ถือเป็นหนึ่งในพายุที่รุนแรงที่สุด ที่โปรตุเกสเคยเผชิญ อย่างไรก็ตาม พายุลูกนี้ได้ลดระดับกำลังลง เป็นพายุหมุนเขตร้อนแล้ว ขณะเคลื่อนตัวเข้าสู่ทางตอนเหนือของสเปน ด้วยความเร็วลมสูงสุดเกือบ 100 กม./ชม. ก่อนมุ่งเข้าสู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งก็ได้ส่งผลให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมฉับพลันแล้ว
ตามรายงานล่าสุด ฝรั่งเศสมีผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ราย บาดเจ็บสาหัสอีก 7 คน โดยทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน แต่ก็เต็มไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากถนนถูกตัดขาดหลายแห่ง ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์เข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ
https://www.youtube.com/watch?v=hE-Cy5cTuEc
ฝนที่ตกลงมาเพียงชั่วข้ามคืน แต่มีปริมาณมากพอกับฝนที่ตกมา เป็นเวลา 2-3 เดือน ส่งผลให้พื้นที่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสเกิดน้ำท่วมอย่างหนัก หลายพื้นที่กระแสน้ำพัดเชี่ยวกรากและเต็มไปด้วยโคลน ทำลายสะพานและถนนเสียหายอย่างหนัก
อิทธิพลของพายุหมุนเขตร้อนเลสลี ยังทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโอด ในจังหวัดโอด ประเทศฝรั่งเศส สูงเป็นประวัติการณ์ในรอบ 100 ปี ส่วนทางการได้ระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและตำรวจ รวม 100 นาย เข้าปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่
AFP Photo
