
ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาโครงสร้าง ระบุว่า เพราะไม่มีเหตุแผ่นดินไหวก่อนจึงทำให้การคาดการณ์สึนามิครั้งนี้ในอินโดนีเซียได้ยาก หากระบบเตือนภัยทำงานก็อาจไม่ช่วยให้ประชาชนอพยพได้ทัน
จากกรณีเกิดสึนามิถล่มช่องแคบซุนดา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อ 21.30 น. วันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 222 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 800 คน โดยไม่มีการแจ้งเตือนจากศูนย์เตือนภัย ต่อมาทางการอินโดนีเซีย ระบุุว่า สึนามิครั้งนี้เกิดขึ้นจากดินถล่มใต้ทะเลหลังภูเขาไฟอะนักกรากะเตาปะทุขึ้น
ด้าน ดร.เอ็ดดี เด็มพ์เซย์ อาจารย์ด้านธรณีวิทยาโครงสร้าง คณะวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยฮัลล์อังกฤษ คาดการณ์ว่า ลักษณะของภูเขาไฟอะนักกรากาตัว สามารถปะทุขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้โครงสร้างธรณีไม่มั่นคง ส่งผลให้เกิดจากยุบตัวและเกิดดินถล่มได้ จากนั้นน้ำทะเลจะเข้าไปแทนที่และเกิดเป็นสึนามิ เมื่อทะลักผ่านซุนดาซึ่งอยู่ระหว่างเกาะสุมาตรา และเกาะชวาของอินโดนีเซีย ยิ่งทำให้คลื่นที่เกิดสูงกว่าปกติสึนามิจึงรุนแรงขึ้น แต่ยังเร็วเกินกว่าจะสรุปได้ว่าสาเหตุของสึนามิคืออะไร

นักธรณีวิทยา กล่าวว่า แม้ระบบเตือนภัยสึนามิจะทำงานตามปกติ ก็ไม่สามารถช่วยอะไรมากนัก เพราะภัยพิบัติครั้งนี้เกิดขึ้นโดยไม่มีสัญญาณบอกเหตุล่วงหน้า สึนามิครั้งนี้รุนแรงมากจนแทบป้องกันอะไรไม่ได้เลย หากมองในมุมด้านวิศวกรรมเมื่อภัยธรรมชาติเกิดขึ้นใกล้กับแหล่งที่อยู่อาศัย ระบบเตือนภัยใดๆ ก็ไม่สามารถเตือนภัยได้รวดเร็วพอ
ขณะที่นายแดเนียล ควินน์ เจ้าของเว็บไซต์ Gunung Bagging ที่สำรวจภูเขาในอินโดนีเซียและมาเลเซีย กล่าวว่า ไม่แปลกใจที่ยอดผู้เสียชีวิตสูงมาก เพราะภูเขาไฟอยู่ใกล้กับชุมชน และคนจำนวนมากก็เดินทางไปท่องเที่ยวชมภูเขาไฟกรากะเตา อีกทั้งยังไม่มีที่พักชั่วคราวสำหรับการรับมือภัยพิบัติอย่างสึนามิใดๆ

นายปีเตอร์ ฮอลท์สเบิร์ก รองผู้อำนวยการโครงการอาหารโลก (WFP) ประจำอินโดนีเซีย กล่าวว่า โครงการอาหารโลกพร้อมช่วยเหลือรัฐบาลอินโดนีเซียรับมือกับสึนามิ โดยองค์กรมีทีมผู้เชี่ยวชาญการรับมือภัยพิบัติ และผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์สามารถช่วยนำเสบียงและทีมกู้ภัยไปยังพื้นที่ประสบภัยได้ และหากรัฐบาลยื่นคำร้องมาโครงการอาหารโลกจะช่วยประเมินความเสียหายและช่วยเยียวยาความเสียหายต่อไปด้วย

อ้างอิงจาก Indonesian tsunami almost impossible to predict: experts









