มีแฟนทิพย์เป็น AI เพื่อนใจคลายเหงา โมเดลหาเงินบริษัทเทคโนโลยีปีหน้า?

มีแฟนทิพย์เป็น AI เพื่อนใจคลายเหงา โมเดลหาเงินบริษัทเทคโนโลยีปีหน้า?

เทคโนโลยี

เมื่อเร็วๆ นี้มีข่าวสาวญี่ปุ่นแต่งงานกับชายหนุ่มที่เป็น AI จนเป็นไวรัลในโซเชียล และไม่ใช่เหตุการณ์เดียว มีหลายคนเปิดใจออกสื่อว่าตนเองก็ตกหลุมรับแชทบ็อท AI

การปฏิบัติกับ AI เหมือนเป็นเพื่อน ที่ปรึกษา ไปจนถึง “แฟนทิพย์” เป็นสิ่งใหม่ในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีนี้ นับตั้งแต่ Open AI เปิดตัว ChatGPT ในปี 2022 โลกก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

หนังเรื่อง Her ที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับชายตกหลุมรักผู้หญิง AI กลับมาถูกพูดถึงกันอีกครั้ง บ้างก็ว่า อีกไม่นาน สิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่อง Her จะไม่เป็นเรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป

สถิติที่น่าสนใจจากข้อมูลของ SplitMetrics พบว่าแอปพลิเคชันในกลุ่ม AI Companion มียอดดาวน์โหลดบน Google Play Store สูงถึง 225 ล้านครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการเปิดตัว ChatGPT ในปี 2022 ทำให้ตลาดนี้เติบโตขึ้นถึง 49% (เพิ่มขึ้น 74 ล้านราย)

แอปฯ ประเภท “AI Girlfriend” ได้รับความนิยมสูงกว่า “AI Boyfriend” อย่างเห็นได้ชัด (506,000 ต่อ 74,000 ดาวน์โหลด) ภูมิภาคเอเชียครองส่วนแบ่งยอดดาวน์โหลดสูงถึง 64% ของโลก โดยมีแพลตฟอร์มที่คนนิยมใช้คือ SimSimi, Nova, Replika และ Chai

Wheatley Institute เผยเมื่อต้นปีที่ผ่านมาว่า 1 ใน 5 ของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ เคยแชทกับ AI ในฐานะคนรัก โดยตัวเลขนี้พุ่งสูงขึ้นอย่างมากในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งสูงถึง 31% ในกลุ่มผู้ชาย และ 23% ในกลุ่มผู้หญิง นอกจากนี้ยังพบแนวโน้มที่น่าสนใจในกลุ่มผู้ใช้งานที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่เริ่มเปิดใจรับความสัมพันธ์เสมือนจริงนี้มากขึ้นเช่นกัน

[ ทำไมเราถึงยอมรับ AI ในฐานะคนสำคัญ ]

มีผลสำรวจจาก Dentsu ในญี่ปุ่น ผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า พวกเขากล้าแชร์ความรู้สึกกับแชทบ็อทมากกว่าเพื่อนสนิทหรือแม้แต่แม่ของตัวเองเสียอีก ผลสำรวจจากสมาคมเพศศึกษาแห่งญี่ปุ่นระบุว่า เด็กนักเรียนหญิงมัธยมปลายกว่า 22% มีแนวโน้มชอบความสัมพันธ์แบบรักในจินตนาการหรือ Fictional Romance มากขึ้น

ผลสำรวจจาก Wheatley Institute ชี้ให้เห็นว่า ผู้ใช้มีความทัศนคติเชิงบวกต่อ AI อย่างมาก

42% มองว่า AI คุยด้วยง่ายกว่ามนุษย์จริงๆ
43% เชื่อว่า AI เป็นผู้ฟังที่ดีกว่า
31% รู้สึกว่า AI เข้าใจพวกเขาได้ดีกว่าคนจริงๆ
21% ยอมรับว่าพวกเขา “ชอบคุยกับ AI มากกว่าคนจริงๆ” เสียด้วยซ้ำ

เทรนด์เหล่านี้สะท้อนถึงการทุ่มทุนและเวลาให้ AI ของตนเก่งขึ้น ตอบได้เป็นภาษามนุษย์มากขึ้น และยังมีนิสัยที่หลากหลาย ไม่แข็งกระด้าง

ในการอัปเดต ChatGPT โมเดล 5.1 และ 5.2 สิ่งที่ Open AI ปรับปรุงให้ดีขึ้นคือ การตอบคำถาม ที่ลดความแห้ง แข็งกระด้าง อีกทั้งยังเปิดให้ผู้ใช้งานคัสตอบ ปรับแต่งนิสัยของ AI เวลาคุยกับเราได้ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นงาน หรือขี้เล่น

สิ่งที่น่าจับตามอง คือการขยับตัวของ Sam Altman จาก OpenAI ที่ประกาศแผนการปรับปรุง ChatGPT ในเดือนธันวาคม 2025 ให้รองรับบทสนทนาสำหรับผู้ใหญ่ สำหรับผู้ใช้ที่ผ่านการยืนยันอายุแล้ว โดยระบุว่าเทคโนโลยีปัจจุบันสามารถจัดการด้านความปลอดภัยและสุขภาพจิตได้ดีพอที่จะลดข้อจำกัดเหล่านี้ลง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการความใกล้ชิดที่สมจริงยิ่งขึ้น

Grok ของ Elon Musk เองก็ทำ AI อวตารที่สามารถคุยเรื่องผู้ใหญ่ๆ ได้บน X อย่างเปิดเผย

ถ้าไม่นับประเด็นถกเถียงทางสังคม คนรัก AI ก็อาจเป็นอีกหนึ่งโมเดลธุรกิจใหม่ของบริษัท AI เพราะทุกการพูดคุยกับ AI ต้องแลกด้วยโทเค็นที่ต้องใช้เงินซื้อ แต่ละแอปยังมีค่าบริการรายเดือนเป็นพื้นฐานอยู่แล้วด้วย ตั้งแต่เดือนละ 200 บาท ไปจนถึงกว่า 700 บาท

ยิ่งคนเราเสพติดการคุยกับ AI มาก บริษัทก็ยิ่งได้เงินมาก ทฤษฎีเดียวกันกับการใช้งานโซเชียลมีเดีย ยิ่งคนใช้เยอะ ก็ยิ่งชายโฆษณาเจาะกลุ่มได้เยอะ

ท้ายที่สุดแล้ว ความสำเร็จของโมเดลธุรกิจ AI Companion อาจไม่ใช่แค่เรื่องของความฉลาดของโมเดล แต่คือการตอบโจทย์สิ่งที่มนุษย์โหยหามาตลอด นั่นคือการถูกรับฟังโดยไม่ถูกตัดสิน

ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีกำลังรุกคืบสู่พื้นที่ทางอารมณ์เพื่อสร้างรายได้มหาศาลเราอาจต้องกลับมาตั้งคำถามว่า ในวันที่เรามีแฟนเป็นโค้ดโปรแกรม ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ในโลกความจริงจะหน้าตาเป็นอย่างไร

แท็กที่เกี่ยวข้อง
TODAY BizviewWriterTODAY Bizview
TODAY Bizview by workpointTODAY
ข่าว สาระ ความรู้ ด้านธุรกิจในประเทศและต่างประเทศที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง