หลายคนได้ยินข่าว Apple เจ้าพ่อฮาร์ดแวร์ลงทำบริการการเงินในรูปแบบบัญชีออมทรัพย์ ขอเพียงเป็นผู้ใช้งาน iPhone และมี Apple Card (และอยู่ในพื้นที่ให้บริการ) ก็สามารถออมเงินได้ดอกเบี้ยสูง 4.15%
จริงๆ แล้ว Apple เจาะตลาดการเงินมาได้สิบปีแล้ว ด้วยการเปิดตัว Apple Wallet หรือกระเป๋าตังค์เสมือน จนถึงตอนนี้ Apple มีบริการการเงินหลักๆ แล้ว 4 ตัวด้วยกันคือ Wallet, Apple Card, Apple Pay Later, Apple Cash
Apple Wallet คือ กระเป๋าสตางค์เสมือน จัดเก็บบัตรเครดิต บัตรประจำตัว ในรูปแบบ Virtual บน Wallet ใน iPhone, Apple Watch ไม่ต้องพกเงินสด และบัตรตัวจริง
Apple Card คือ บัตรเครดิตของ Apple ได้เครดิตเงินคืน 2% ทุกครั้งเมื่อจ่ายผ่าน Apple Pay ซึ่งล่าสุดเปิดฟังก์ชั่นเรียกเสียงฮือฮา คือสามารถนำเครดิตเงินคืนไปออมต่อได้ ดอกสูง 4.15% ไม่มีขั้นต่ำ ไม่มีค่าธรรมเนียม
Apple Pay Later คือบริการ Buy Now Pay Later หรือซื้อก่อน จ่ายทีหลัง ที่เรารู้จักกันดี เมื่อจ่ายซื้อของผ่าน Apple Pay และ Wallet แบ่งจ่าย 4 งวด ดอกเบี้ย 0%
Apple Cash คือการเก็บเงินสดในรูปแบบดิจิทัลบน Wallet โอนให้คนอื่นได้ผ่านการสั่ง Siri เอาไปใช้จ่ายได้ตามปกติบน Apple Pay
ซึ่งเมื่อดูดีๆ แล้ว บริการพื้นฐานที่เราทำได้จากธนาคารคือ ฝาก โอน ออม สามารถทำได้บนอีโคซิสเต็มของ Apple หมดแล้ว แต่ข้อเสียเปรียบของ Apple คือ ยังเปิดใช้งานแบบจำกัดมากๆ ยังไม่มีสักบริการที่คนไทยใช้งานได้อย่างเป็นทางการ และใช้เวลานาน กว่าจะขยายบริการไปยังประเทศอื่นๆ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
Apple Card เปิดให้ออมเงิน ชูดอกเบี้ยสูง 4.15% เริ่มใช้งานในสหรัฐฯก่อน https://cms.workpointtoday.com/apple-card-opens-for-savings-raise-a-high-interest-rate-of-4-15/










