หนังสือพิมพ์ ซิดนีย์มอร์นิงเฮรัลด์ (SMH) รายงานว่า ทางการออสเตรเลียประกาศปิดพรมแดนระหว่างรัฐวิกตอเรีย และ รัฐนิวเซาธ์เวลส์ หลังพบว่ามีผู้ติดเชื้อในรัฐวิกตอเรียเพิ่มขึ้นถึง 127 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการระบาดของโควิด-19 เป็นต้นมา
รัฐวิกตอเรียเป็นรัฐที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของประเทศ มีเมืองหลวงคือเมลเบิร์น ซึ่งกำลังกลายเป็นแหล่งแพร่กระจายของเชื้อแหล่งใหม่อยู่ ณ ตอนนี้
นายกรัฐมนตรี สก็อตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากพูดคุยกับผู้ว่าการของทั้งสองรัฐแล้ว ทั้งสามคนเห็นพ้องต้องกันว่า ตอนนี้รัฐวิกตอเรียจะต้องถูกแยกออกมาจากส่วนอื่นของประเทศเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนในรัฐอื่น ๆ มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อตามไปด้วย
ตำรวจรัฐนิวเซาธ์เวลส์จะคอยตรวจตราบริเวณพรมแดนของทั้งสองรัฐไม่ให้คนจากฝั่งวิกตอเรียข้ามมาได้โดยไม่ได้รับอนุญาต ในขณะที่ตำรวจวิกตอเรียจะทำหน้าที่ควบคุมการระบาดภายในรัฐของตน โดยทาง เชน แพตตัน หัวหน้ากรมตำรวจวิกตอเรียแถลงว่า มีผู้คนพยายามที่จะละเมิดกฎล็อกดาวน์ และระบุว่ามีชายวัย 32 ปีรายหนึ่ง ที่ใช้วิธีกัดเจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างพยายามหลบหนี
ทางด้าน จาซินดา อาร์เดิร์น นายกฯ นิวซีแลนด์ ที่มีแผนจะเปิด Travel Bubble ระหว่างทั้งสองประเทศ เผยว่ากำลังรอคำตอบจากฝั่งออสเตรเลีย ว่าจะมีการเปิดเส้นทางให้สามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้ทั้งประเทศ หรือว่าจะใช้วิธีเปิดเส้นทางจากรัฐสู่รัฐในเบื้องต้นก่อน ซึ่งต้องรอดูสถานการณ์ในออสเตรเลียต่อจากนี้ว่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดระลอกนี้ได้หรือไม่










