
เมืองเมลเบิร์นของออสเตรเลียรั้งอันดับ 2 ในการจัดอันดับ “เมืองน่าอยู่ที่สุดของโลก” รองจากกรุงเวียนนา เมืองหลวงของออสเตรีย
วันที่ 4 ก.ย. 2562 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รายงานโดยอีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (อีไอยู) หน่วยงานวิจัยของนิตยสารดิอีโคโนมิสต์ ประเมินคะแนนดัชนีความน่าอยู่ของเมลเบิร์นที่ร้อยละ 98.4 เท่ากับเมื่อปี 2018 ต่ำกว่าเวียนนาเพียงร้อยละ 0.7 นอกจากนี้ เมลเบิร์นยังได้คะแนนด้านวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมสูงสุดในบรรดา 5 เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก
แซลลี แคปป์ นายกเทศมนตรีเมืองเมลเบิร์น กล่าวว่า ถือเป็นเกียรติสำหรับเมลเบิร์นอย่างยิ่งที่ได้ครองตำแหน่งสูงเช่นนี้ ท่ามกลางการเติบโตของประชากรอย่างมีนัยสำคัญและการพัฒนาระบบขนส่ง เราทุกคนควรภูมิใจกับความสำเร็จของเมลเบิร์น แต่แน่นอนว่าเมืองของเรายังมีสิ่งที่ต้องจัดการอีกมาก
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมในปีนี้เมลเบิร์นจึงทุ่มงบถึง 166 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 3.4 พันล้านบาท) เพื่อสร้างชุมชนที่ดีขึ้น ทั้งยังลงทุน 28.2 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 580 ล้านบาท) ในโครงการขนส่ง เพื่อพัฒนาต่อยอดเมืองของเรา และลงทุนอีก 7.1 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 147 ล้านบาท) ไปกับสวนสาธารณะและสวนอันโด่งดังของเมือง
รายงานระบุเพิ่มเติมว่าสำหรับการจัดอันดับเมืองน่าอยู่ในปีนี้ ซิดนีย์ขยับจากอันดับที่ 5 ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 3 ขณะที่เมืองสำคัญอื่นๆ ของออสเตรเลียอย่างแอดิเลด เพิร์ธ และบริสเบนอยู่ในอันดับที่ 10 14 และ 18 ตามลำดับ
ทั้งนี้ แถลงการณ์เผยว่าดัชนีความน่าอยู่อีไอยูเป็นการจัดอันดับเมืองน่าอยู่ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยเปรียบเทียบและจัดอันดับความน่าอยู่ของเมืองสำคัญ 140 แห่งทั่วโลก









