อะเมซอน เว็บ เซอร์วิส (AWS) เปิดอินไซต์การใช้ AI ในองค์กรประเทศไทยว่า ในปี 2567 เกือบทุก 3 นาทีมีธุรกิจใหม่จะนำ AI มาใช้ ปัจจุบันมีธุรกิจ 600,000 รายหรือ 32% ของธุรกิจไทยทั้งประเทศ นำ AI มาใช้แล้ว คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 33% YOY
ที่น่าสนใจคือ สำหรับธุรกิจที่หยิบ AI มาใช้สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7% คาดว่าเป็นเพราะสามารถประหยัดต้นทุนได้ 7%
ด้าน AWS ร่วมกับ Strand Partners สำรวจการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในประเทศไทย ผ่านการศึกษาเรื่อง ‘Unlocking Thailand’s AI Potential’ โดยเก็บข้อมูลจากผู้นำธุรกิจและประชาชนทั่วไปกลุ่มละ 1,000 คน
ผลสำรวจพบว่า แม้ธุรกิจไทยจำนวนมากจะเริ่มนำ AI เข้ามาใช้แล้ว แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับ “พื้นฐาน” มากกว่าการใช้ในเชิงลึก เพื่อสร้างนวัตกรรมหรือโมเดลธุรกิจใหม่ให้มีประสิทธิภาพขึ้น
ถึงแม้ว่า ความตื่นตัวด้าน AI จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ 72% ของธุรกิจไทยยังใช้ AI แค่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพหรือปรับปรุงกระบวนการทำงาน มีเพียง 18% ที่ใช้ในระดับกลาง และ 10% เท่านั้นที่ผสาน AI เข้าในแกนกลางของธุรกิจ
เช่น การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ สะท้อนว่าประเทศไทยยังมีศักยภาพอีกมากในการยกระดับการใช้ AI ให้ลึกซึ้งและสร้างมูลค่าได้มากขึ้น
[ สตาร์ทอัพไทยก้าวหน้าในการใช้ AI ]
อีกหนึ่งอินไซต์ที่น่าสนใจคือ สตาร์ทอัพไทยมีความกระตือรือร้นและสร้างสรรค์ในการใช้ AI มากกว่าองค์กรดั้งเดิม โดยกว่า 50% ของสตาร์ทอัพใช้ AI ในรูปแบบต่างๆ และ 40% อยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างเต็มศักยภาพ
ขณะที่บริษัทขนาดใหญ่ แม้จะมีการใช้ AI ถึง 44% แต่มีเพียง 16% ที่ใช้สร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ และเพียง 18% ที่มีกลยุทธ์ AI ครอบคลุมทั่วทั้งองค์กร ส่วนกลุ่ม SME มีเพียง 9% ที่ใช้ AI ในระดับก้าวหน้า
[ ธุรกิจไทยขาดคนเชี่ยวชาญ AI ]
จากผลการศึกษายังพบว่า 47% ของธุรกิจไทยมองว่าการขาดบุคลากรที่มีทักษะด้าน AI คืออุปสรรคหลัก แม้หลายองค์กรจะพร้อมในด้านเทคโนโลยีและวิสัยทัศน์ แต่ยังขาดคนที่สามารถพัฒนาและประยุกต์ใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยเฉพาะเมื่อคาดการณ์ว่าในอนาคต กว่า 61% ของตำแหน่งงานจะต้องการทักษะด้าน AI แต่มีเพียง 29% ของธุรกิจ ที่เชื่อว่าพนักงานของตนพร้อมแล้วในตอนนี้
อีกประเด็นหนึ่งคือ เรื่องกฎระเบียบด้าน AI ซึ่งธุรกิจไทย 49% เห็นว่าการมีกฎระเบียบที่ชัดเจนจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มลูกค้า และ 39% เชื่อว่าจะช่วยสร้างกรอบการกำกับดูแลที่มั่นคงขึ้น ขณะเดียวกัน ธุรกิจได้จัดสรรงบเฉลี่ย 27% ของค่าใช้จ่าย เพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมาย และ 76% คาดว่าค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นใน 3 ปีข้างหน้า
ด้าน AWS ได้เสนอแนวทางสำคัญ 3 ด้านเพื่อยกระดับศักยภาพ AI ของประเทศไทย ได้แก่
-
-
-
- การพัฒนาทักษะดิจิทัลเฉพาะอุตสาหกรรม เพื่อสร้างบุคลากรที่พร้อมใช้ AI อย่างลึกซึ้ง
- การออกกฎระเบียบที่ชัดเจนและเอื้อต่อการนวัตกรรม เพื่อให้ธุรกิจมั่นใจในการลงทุน
- การเร่งเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในภาครัฐ โดยเฉพาะในด้านสาธารณสุข การศึกษา และระบบจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งจะกระตุ้นให้ภาคเอกชนปรับตัวเร็วขึ้น
-
-
ในรายงานยังบอกอีกว่า 67% ของภาคธุรกิจจะเร่งนำ AI มาใช้ หากภาครัฐเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง แสดงให้เห็นว่าภาครัฐมีส่วนสำคัญในการรขับเคลื่อนนวัตกรรมของประเทศโดยตรง
สำหรับธุรกิจของ AWS ในเดือนมกราคม 2568 AWS ได้เปิดตัว Asia Pacific (Thailand) Region ด้วยเงินลงทุนกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท) ซึ่งคาดว่าจะสร้างงานเต็มเวลากว่า 11,000 ตำแหน่งต่อปี และเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจไทยถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2560 AWS ยังได้พัฒนาทักษะดิจิทัลให้กับคนไทยกว่า 50,000 คน ผ่านโครงการอบรมต่างๆ เช่น AWS Skill Builder, AWS Educate, AWS Academy และอื่นๆ











