โขดหิน “อูลูรู” (Uluru) หรือหินแอร์ส (Ayers Rock) สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของออสเตรเลีย กำลังเผชิญปัญหา “นักท่องเที่ยวทะลัก” และ “ขยะมหาศาล” หลังคำสั่งห้ามปีนโขดหินยักษ์แห่งนี้จะมีผลในเดือนตุลาคม

ภาพจาก :: China Xinhua News
วันที่ 13 ก.ค. 2562 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปัจจุบันโรงแรมที่พักรอบโขดหินยักษ์สีแดง ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่าพื้นเมืองในออสเตรเลีย ล้วนถูกจองเต็มทุกแห่ง ขณะที่นักท่องเที่ยวบางส่วนบุกตั้งแคมป์ที่พักค้างแรมอย่างผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 คณะกรรมการบริหารอุทยานแห่งชาติอูลูรู–คาตา ทจูทา (Uluru-Kata Tjuta National Park) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยุติการปีนโขดหินอูลูรู ตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. 2019 เป็นต้นไป
สตีเฟน ชเวอร์ ประธานการท่องเที่ยวกลางของออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอบีซี (ABC) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (11 ก.ค.) ว่าบรรดาเจ้าของที่ดินในพื้นที่ต่างรายงานกรณีถูกบุกรุกสถานที่เป็นจำนวนมาก
ชเวอร์กล่าวว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวที่ตั้งแคมป์ริมถนนกำลังสร้างภัยคุกคามสิ่งแวดล้อมบริเวณนั้นด้วยการทิ้งขยะไม่เป็นที่
“นักท่องเที่ยวเหล่านั้นคิดว่าพวกเขากำลังทำสิ่งที่ดีด้วยการตั้งแคมป์ริมทางอย่างอิสระ ทว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่พวกเขาทำคือการบุกรุกพื้นที่คุ้มครองของกลุ่มชาวบ้านเขตชนบท แต่คนจำนวนไม่น้อยดูเหมือนยังไม่เข้าใจ”
“นักท่องเที่ยวไหลบ่าเข้ามาเมื่อไร ขยะก็ทะลักตามมาด้วยเมื่อนั้น” ชเวอร์กล่าว
นับตั้งแต่พื้นที่บริเวณดังกล่าวกลับคืนสู่กลุ่มเจ้าของดั้งเดิมในปี 1985 พวกเขาก็เริ่มเรียกร้องนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนคิดทบทวนการปีนโขดหินด้วยการปักป้ายข้อความ ณ ฐานโขดหินในปี 1992
ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1960 มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตจากการปีนโขดหินยักษ์แห่งนี้อย่างน้อย 37 ราย โดยเหยื่อล่าสุดเมื่อปีก่อนเป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ที่เป็นลมล้มหมดสติขณะปีนโขดหินและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ชเวอร์กล่าวทิ้งท้ายย้ำเตือนนักท่องเที่ยวควรวางแผนล่วงหน้าอย่างดี หากต้องการมาเยือนอูลูรูในอีกไม่กี่เดือนที่เหลือ ก่อนคำสั่งห้ามปีนโขดหินยักษ์นี้จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ









