รัฐบาลภูฏานตัดสินใจบังคับใช้มาตรการปิดประเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังมีรายงานการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ
วันที่ 13 ส.ค.2563 นายโลเท เชอร์ริง นายกรัฐมนตรีของภูฏานแจ้งต่อประชาชนว่าภูฏานตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในเมืองเกเลพู ทางตอนใต้ของประเทศ โดยผู้ป่วยหญิงรายดังกล่าวติดต่อใกล้ชิดกับประชาชนจำนวนมากในเมืองพาโร ทิมพู และเกเลพู รวมถึงพื้นที่อื่นๆ
โลเท ระบุว่า ก่อนหน้านี้ผู้ป่วยรายนี้มีผลตรวจเชื้อโรคโควิด-19 เป็นบวก จึงเข้ารับการรักษาและกักตัวแยก ก่อนจะหายจากอาการป่วยในเวลาต่อมา ผู้ป่วยหญิงมีผลตรวจเชื้อเป็นลบหลายครั้งและกลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 15 วัน ก่อนผลตรวจเชื้อจะกลายเป็นบวกอีกครั้งในวันจันทร์ (10 ส.ค.) ที่ผ่านมา ก่อนรู้ผลเธอได้เดินทางไปยังสถานที่หลายแห่ง เยี่ยมบ้านของญาติหลายคน ทั้งยังเดินทางไปยัง 3 เมืองในข้างต้น ตั้งแต่ช่วงเย็นวันจันทร์จนถึงเช้าวันอังคาร หน่วยงานด้านสาธารณสุขสืบหาผู้ติดต่อใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้ได้ 71 ราย
ทั้งนี้ รัฐบาลภูฏานบังคับใช้ข้อจำกัดด้านการเดินทางของประชาชนและยานพาหนะทั้งภายในและระหว่างเขตต่างๆ ส่วนโรงเรียน สถาบัน สำนักงาน และองค์กรพาณิชย์จะยังคงปิดทำการต่อไป
นายโลเท ระบุว่า ภูฏานปิดประเทศเพื่อระบุตัวและคัดแยกผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทั้งหมดโดยมุ่งหยุดยั้งห่วงโซ่การแพร่ระบาด พร้อมกระตุ้นให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเพื่อปกป้องตนเองและครอบครัวจากเชื้อไวรัส แต่ไม่ต้องตื่นตระหนกเพราะจะมีการจัดส่งเสบียงอาหารให้ถึงหน้าประตูบ้าน มาตรการปิดประเทศอาจกินเวลานาน 5 วันหรือสูงสุดถึง 3 สัปดาห์ โดยสถิติเมื่อวันอังคาร (11 ส.ค.) ระบุว่าภูฏานมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวม 113 ราย










